นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย รมว.กลาโหม และผบ.เหล่าทัพ รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ก่อนร่วมงาน 100 ปีการบิน ทอ.ขนกริพเพน-เอฟ 16-ซาบบ์ บินโชว์ พร้อมจัดเต็มโชว์บิน 4 องก์ ฝูงบินบลูฟีนิกซ์ ผาดแผลงรูปหัวใจ ปิดท้ายปล่อยควันเป็นรูปธงชาติไทย “สุกำพล” เผยนายกฯ พูดคุยทั่วไปเกี่ยวกับกองทัพ ไม่ได้หารือเรื่องลับ สยบข่าวตั้งคณะทำงานเก็บกู้วัตถุระเบิดไทย-กัมพูชา ตามมติศาลโลก
วันนี้ (2 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ., พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. ได้รับเสด็จฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม (สมเด็จพระราชาธิบดี ฮัจญี ฮัจซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์) พร้อมทั้งได้จัดแสดงปฏิบัติการทางยุทธวิธีการก่อากรร้ายโดยศูนย์ต่อต้านการก่อการร้าย (ศตก.) กองบัญชาการกองทัพไทย และการสาธิตการอารักขาของหน่วยทหารรักษาพระองค์จากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.)
จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.อ.ธนะศักดิ์ พร้อมด้วย ผบ.เหล่าทัพ ได้เดินทางมาต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง, พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมทั้งรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ก่อนที่จะเดินทางไปร่วมงานพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันครบรอบ 100 ปีบุพการีการบินทหารอากาศ ที่อาคารคลังสินค้า 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า นายกฯ และผบ.เหล่าทัพได้มีการรับประทานอาหารร่วมกัน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งมีการหารือพูดคุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับกองทัพ แต่ไม่ได้เป็นไปในลักษณะการประชุมอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ได้มีการพูดถึงผลการประชุมคณะทำงานเพื่อปฏิบัติตามมติของศาลโลก (เจดับเบิลยูจี) หรือ Joint Working Group ที่มี พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร เสนาธิการทหาร เป็นประธานการประชุมที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นการสรุปประชุมไม่ได้เกี่ยวกับการตั้งชุดคณะทำงานร่วมในการเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ต้องให้นายกฯ เป็นผู้ลงนามตามที่เป็นข่าว รวมทั้งได้มีการหารือประเด็นที่เป็นข่าวที่ผ่านมา เช่น กรณีที่ที่องค์การนาซาขอให้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศ
“การนัดรับประทานอาหารครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ และไม่ได้หารือเรื่องลับ เป็นการนัดหมายกันล่วงหน้า เพื่อมาพบปะกันก่อนเดินทางไปร่วมงานของกองทัพอากาศพร้อมกันเป็นหมู่คณะ เป็นการคุยจิปาถะ เฮฮาเฉยๆ เพราะไม่มีเวลามาก” พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากกองทัพระบุว่า เดิม พล.อ.ธนะศักดิ์ได้นัดหมาย ผบ.เหล่าทัพมาประชุมผู้บัญชาการทางทหารตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ปี 2551 แต่ติดภารกิจรับเสด็จฯ ประกอบกับมีภารกิจในการต้อนรับนายกฯ พล.อ.ธนะศักดิ์จึงได้นัด ผบ.เหล่าทัพมาร่วมรับประทานอาหารกับนายกฯ ก่อน ซึ่งที่ผ่านมามีกระแสข่าวในเรื่องความขัดแย้งที่กองทัพไม่เห็นด้วย และให้คำแนะนำกรณีที่องค์การนาซาจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงความคิดเห็นของรัฐบาลและกองทัพที่ไม่ตรงกัน ในเรื่องระยะเวลาการถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทไทยและกัมพูชา พร้อมทั้งโยงสองเรื่องให้เป็นประเด็นทางการเมือง ทั้งนี้เพื่อให้ ผบ.เหล่าทัพได้มีโอกาสชี้แจงทำความเข้าใจกับนายกฯ โดยแสดงให้เห็นว่ากองทัพกับรัฐบาลทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหาและเป็นเอกภาพ ไม่มีความขัดแย้ง
จากนั้นเวลา 14.00 น. ที่อาคารคลังสินค้า 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง นางสาวยิ่งลักษณ์ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการแสดงการบินเนื่องในวันครบรอบ 100 ปีการบินของบุพการีทหารอากาศ โดยมี พล.อ.อ.สุกำพล, พล.อ.เสถียร, พล.อ.ธนะศักดิ์ , พล.อ.ประยุทธ์, พล.ร.อ.สุรศักดิ์ เข้าร่วมพิธี โดยมี พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ.ให้การต้อนรับ ในการแสดงการบินแบ่งออกเป็น 4 องก์ ประกอบด้วยองก์ที่ 1 “รักบุพการีเท่าน่านฟ้า” เป็นการแสดงเบิกน่านฟ้า เพื่อยกย่อง เชิดชูบุพการีทหารอากาศ ที่วางรากฐานการบินของประเทศจนพัฒนาเป็นกองทัพอากาศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี โดยมีเครื่องบินขับไล่แบบ F-16A จำนวน 2 เครื่อง ทำการบินผ่านพิธีเปิดงาน นอกจากนั้นยังมีเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบ AU-23A บินลากป้ายสัญลักษณ์งาน 100 ปี โดยหมู่บินสวนสนามบินผ่านพิธีประกอบด้วย เครื่องบินขับไล่แบบ F-16 A/B จำนวน 9 เครื่อง เครื่องบินโจมตีแบบ ALPHA JET จำนวน 4 เครื่อง เครื่องบินฝึกขับไล่แบบ L-39 จำนวน 6 เครื่อง เครื่องบินฝึกแบบ T-41 D จำนวน 4 เครื่อง เครื่องบินฝึกแบบ DA-42 จำนวน 4เครื่อง เครื่องบินฝึกแบบ PC-9 จำนวน 4 เครื่อง
ส่วนองก์ที่ 2 “รักนภาแห่งสยาม” เป็นการแสดงถึงความรักเกียรติและศักดิ์ศรีของชาติ ปกป้องน่านฟ้าไทยให้เป็นอธิปไตยมาถึงปัจจุบัน โดยมีการแสดงการบินการป้องกันภัยทางอากาศ โดยเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 A/B และเครื่องบินโจมตีแบบ ALPHA JET และเครื่องบินควบคุมแจ้งเตือนแบบ SAAB 340 AEW การบินโจมตีทางอากาศ ของเครื่องบินขับไล่แบบ F-16A/B การบินสนับสนุนกำลังภาคพื้นและเหล่าทัพอื่นๆ ของเครื่องบินโจมตีแบบ L-39การค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบของเฮลิคอปเตอร์แบบ UH-1H และเครื่องบินโจมตีแบบ ALPHA JET องก์ที่ 3 “รักประชาทั่วเขตคาม” เป็นการแสดงการปฏิบัติภารกิจของกองทัพอากาศ ปฏิบัติหน้าที่แก่ประเทศชาติ และการแสดงภารกิจของกองทัพอากาศ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยมีการแสดงการบินสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและกำลังภาคพื้นของเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130H การบินปฏิบัติฝนหลวง และการปฏิบัติการควบคุมไฟป่า ของเครื่องบินลำเลียงแบบ BT-67
องก์ที่ 4 “เทิดพระนามองค์พระมหากษัตริย์ไทย” เป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และเฉลิมพระเกียรติ 85 พรรษา มหาราชา เป็นการแสดงการวิ่งขึ้นของเครื่องบินพระที่นั่ง และการบินผ่านของเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เครื่องบินลำเลียงแบบ ATR-72-500, AIRBUS 319 และ BOEING 737-800 การบินผ่านพิธีฯ ของเฮลิคอปเตอร์แบบ S-92 และเฮลิคอปเตอร์แบบ BELL-412 E พร้อมกับการสวนสนามแปรขบวน ของวงดุริยางค์ทหารอากาศ และบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ และองก์พิเศษ “กองทัพอากาศไทย ก้าวไกลวิสัยทัศน์แห่งศตวรรษใหม่” เป็นการแสดงปิดท้ายเพื่อแสดงถึงวิสัยทัศน์ความมุ่งหวังที่จะก้าวไปสู่กองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาค (One of The Best Air Forces in ASEAN) โดยมีการบินเดี่ยวแสดงสมรรถนะของเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 A ซึ่งออกแบบสีลายพิเศษในโอกาส 100 ปี นอกจากนี้ยังการบินเดี่ยวแสดงสมรรถนะของเครื่องบินขับไล่แบบ GRIPEN 39 C การแสดงการบินผาดแผลงของหมู่บินผาดแผลง BLUE PHOENIX จากนั้นหมู่บินเครื่องบินฝึกแบบ CT-4E จำนวน16 เครื่อง ทำการบินหมู่แปรอักษรตัวเลข “100” และปิดพิธีฯ ด้วยการบินปล่อยควันสีธงชาติไทย ของเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบ AU-23A
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางมาเป็นประธานในพิธีในครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แต่งกายด้วยเสื้อสีชมพูบานเย็นทับด้วยสูทลำลองสีดำ ทั้งนี้ ตลอดการนั่งชมการโชว์ศักยภาพการบินเกือบ 2 ชั่วโมง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีการพูดคุยเกี่ยวกับการแสดงการบินกับ ผบ.ทอ.ตลอดเวลา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ส่วนบรรยากาศในการพูดคุยระหว่างนายกฯ และ ผบ.เหล่าทัพเป็นไปอย่างชื่นมื่น