“ไอ้ตู่” อ้างบ้านเมืองไม่ปกติ สั่งสมุนเตรียมพร้อมตายเป็นทัพหน้าให้รัฐ เตือนเสี่ยงเจอแบบยุค “แม้ว” อีกหนึ่งสัปดาห์จะมีสถานการณ์ พร้อมชวนสาวกไปศาลหากโดนถอนประกัน “จ่าประสิทธิ์” โวยให้ของลับคอร์รัปชันตรงไหน ด้าน “เมียเหวง” จี้ “ยิ่งลักษณ์” เซ็นอนุมัติศาลอาญาโลกสอบเฉพาะเหตุสลายชุมนุมปี 53 ไม่เกี่ยวเหตุการณ์อื่น ก่อนเดินสายปลุกก๊วนต่างแดน
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ลาดพร้าว เมื่อเวลา 13.00 น.กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช.และแกนนำ นปช. ร่วมกันแถลงข่าว โดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นายคารม พลพรกลาง ทนายความ นปช.ได้ติดต่อเข้ามาผ่านระบบสไกป์จากนครเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เนื่องจากอยู่ระหว่างเดินทางไปกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อยื่นเรื่องการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ให้ศาลอาญาระหว่างประเทศพิจารณา
นายวรวุฒิกล่าวว่า เหตุการณ์บ้านเมืองขณะนี้ไม่ธรรมดา ฝ่ายค้านค้านทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นคุณหรือเป็นโทษกับประเทศ ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระก็กลัวว่าเมื่อแก้แล้วอำนาจขอบเขตจะเหลือแค่ไหน ซึ่งเรื่องนี้ นปช.จึงต้องผลักดันให้มีการร่างฉบับใหม่ จึงอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณว่ากลุ่มไหนทำให้บ้านเมืองดีขึ้น หากในวันที่ 5-6 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญชี้ไปในทางใด เราก็ไม่จำเป็นต้องดีใจหรือเสียใจ เพราะเราไม่เชื่อศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว นอกจากนี้ในส่วนของรัฐบาลในการดำเนินการต่างๆ รัฐบาลก็จำเป็นต้องทำ เพราะกระบวนการตุลาภิวัฒน์ยังใช้ทุกช่องทาง ในการจัดการกับรัฐบาล คนเสื้อแดงต้องให้กำลังใจรัฐบาล อย่าไปโกธร เพราะรัฐบาลต้องรักษาเสถียรภาพไว้
ด้าน นายจตุพรกล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่มีความปกติ รัฐบาลมีอำนาจอย่างเดียว คือ ประชาชนหนุน ส่วนที่เหลือยังอยู่ในมืออำมาตย์ รัฐบาลรักษาลมหายใจไปวันๆ ก็พอแล้ว ขอให้ทุกคนเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา ขอเตือนพรรคเพื่อไทยว่าอย่าออกมาพูดว่าตัวเองทำงานมากแล้วจะเป็นรัฐบาลได้นาน ยกตัวอย่างเช่นกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ทำงานมากกว่าอีก แต่ยังอยู่ไม่ได้ มีการออกมากล่าวด้วยว่าถ้านายจตุพรอยากป็นรัฐมนตรีสบายๆ ขอให้เงียบปากไว้บ้าง แต่ตนขออยู่ท่ามกลางความลำบากมากกว่าไปอยู่ใต้อำมาตย์ วันนี้ต้องการสื่อสารไปยังรัฐบาลหากเกิดเหตุการณ์อะไรทัพหน้าคือประชาชน คนที่ตายคือประชาชน ประชาชนจึงต้องเตรียมตัว ส่วนวันที่ 5-6 ก.ค.หลายคนมองโลกในแง่ดี เชื่อว่าเขาจะเมตตา เราอาจจะมีข่าวดีชิ้นเล็กๆ แต่มีข่าวร้ายชิ้นใหญ่ เหลืออีก 7 วัน ต้องภาวนาว่าใครอยากเห็นบ้านเมือง สงบ ต้องใช้สติอย่างสูง ตนเชื่อว่าการทอดเวลาจะจบใกล้ๆ จะจับตนไปขังใหม่ เพราะตนเป็นอุปสรรค อยากทำให้อะไรเกิดกับประเทศก็ทำได้ตามสบาย และเชื่อว่าอีกหนึ่งสัปดาห์จากนี้จะมีสถานการณ์
“รัฐบาลมีหน้าที่รับฟังประชาชน ถ้ายังไม่มีความเข้าใจสถานการณ์ของเราจะเจอเหมือนรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลนายสมัคร และรัฐบาลนายสมชาย นี่คือการเตือนอย่างมิตร จะมาสรรเสริญกันได้อย่างไร เมื่อขณะนี้มีมีดจ่อคอหอยอยู่แล้ว วันนี้ประชาชนต้องเตรียมตัวไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะเกิดก่อนการไต่สวนถอนประกันตัวของผมหรือไม่ ถ้าเรายอมให้เขาหลอกเราก็ถูกกระทำ วันนี้เรามีหน้าที่รักษาประชาธิปไตย ถ้าอยากได้ดีแล้วทรยศอุดมการณ์ ผมไม่ขอเอา สัปดาห์หน้าใกล้เข้ามาแล้วขอให้ทุกคนออกมาแสดงพลัง วันนี้เป็นการส่งสัญญาณไปยังทุกคน” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวต่อว่า อยากเห็นว่ามีคนรักตนจริงหรือไม่ จึงขอเชิญชวนออกมาร่วมเดินไปยังเรือนจำพร้อมตน หากศาลพิจารณาถอนประกันตัว ที่ออกมานั้นไม่ใช่ต้องการมาเรียกร้องให้ตนออกจากเรือนจำ แต่เป็นการเรียกร้องให้ประเทศไทยพ้นจากระบบยุติธรรมใต้อำมาตย์เสียที
ด้าน จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายจตุพร คนเสื้อแดงเอาอย่างไร ตนเอาอย่างนั้นเป็น ส.ส.เพียงได้มาทำหน้าที่แทนประชาชน หากเป็นแล้วทำไม่ได้ อุดมการณ์ไปไม่ได้ ประชาชนไม่ได้อะไร ขอไม่เป็นดีกว่า ที่พูดไม่ได้เป็นคนดี แต่บ้านเมืองนี้อยู่กับพวกเหี้ยพวกนี้มันอยู่ยาก ขนาดคนดีๆ อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอยู่ไม่ได้ แล้วประสาอะไรกับตน เวลานี้เป็นเวลาประชาชนมุ่งมั่นให้ได้ประชาธิปไตย ทำเพื่อลูกหลานของเรา ถ้าไม่ทำในโอกาสนี้จะรอโอกาสไหน อำมาตย์ไม่มีจิตเมตตาประชาชน ไม่เคยคิดถึงประชาชน ปากบอกทำเพื่อประชาชน หากประชาชนอยู่ดีกินดี ลืมตาอ้าปากหน่อยเขาก็เหยียบหัวแล้ว ก่อนหน้าที่พูดให้ของลับ ไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ที่ตัว บอกว่าศาลรัฐธรรมนูญคนไหนที่มีอำนาจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย คิดว่าถ้าทำถูกก็ไม่ต้องรับ แต่ถ้าทำผิดกฎหมายคุณก็รับไป
“เมื่อวานมีข่าว 9 องค์กรเอกชนเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน ไปยื่นหนังสือ ผบ.ตร.ให้ดำเนินคดีอาญาอย่างถึงที่สุดภายใน 4 วัน หากไม่ดำเนินการจะเผาหุ่นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ ที่ผมบอกว่าให้ ค..ย มันคอร์รัปชันตรงไหน สุรินทร์บ้านผมเรียกไอ้ควาย ไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนี้แล้ว ประเทศชาติจะเดินไปอย่างไร พวกอำมาตย์ไม่เคยทำงานลำบาก รถหลวง ไฟหลวง ข้าวไม่เคยทำ บางคนยังไม่เคยเดินบนดินเลยไปไหนมีคนปูพรมให้เดินเลย” จ.ส.ต.ประสิทธิ์กล่าว
ด้าน นางธิดากล่าวว่า ขณะนี้ตนอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ซึ่งได้เดินทางมาทำภารกิจใหญ่ 2 เรื่อง เรื่องที่ใหญ่ที่สุด คือ การมาศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จไปได้ด้วยดี ซึ่งเราได้นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเอกสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลอาญาระหว่างประเทศมีความเข้าใจมากขึ้น จึงอยากเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เซ็นอนุมัติเอกสารที่มี ส.ส.ในพรรคเสนอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศมีขอบเขตอำนาจในการตรวจสอบเหตุการณ์ที่อยู่เฉพาะเวลาปี 2553 ซึ่งไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์อื่น นอกจากนี้ตนจะไปพบคนเสื้อแดงที่ประเทศ เยอรมนี เดนมาร์ก ฝรั่งเศส พร้อมกับตั้งโรงเรียนเสื้อแดงเพื่อเชื่อมโยงคนเสื้อแดงในไทยและต่างประเทศ เพื่อให้ต่างชาติรับรู้กับเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงถูกกระทำ
ขณะที่ นพ.เหวงกล่าวว่า ใกล้ที่ฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนจะขึ้นศาลโลกเพราะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาพบกับเรา แสดงว่าศาลให้น้ำหนักกับคดีนี้อย่างสูงยิ่ง ซึ่งตนก็ได้ให้ข้อมูลใหม่กับศาล
ด้าน นายคารมกล่าวว่า ที่ต้องไปยืนศาลอาญาระหว่างประเทศ เพราะกระบวนการยุติธรรมเราไม่พยายามจะนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ และเพื่อเป็นการป้องกัน กดดัน ไม่ให้มีการฆ่าประชาชนอีก และมีความเป็นไปได้ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศจะรับเรื่องเหตุการณ์สลายการชุมนุมไว้พิจารณาแต่ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของรัฐบาลด้วย