ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์เอเอสทีวี ปฏิเสธข่าว “ขวัญชัย” อ้างคุยกับ “ดาว์พงษ์” วางแผนปฏิวัติที่โบนันซ่า เผย ก่อนหน้านี้ เข้าโรงพยาบาล เพราะท้องเสีย ยันต่างคนต่างทำหน้าที่ ย้ำชัดไม่มีปฏิวัติ เชื่อ รัฐบาลอยู่ยาว แต่ต้องทำงานเพื่อประชาชน ส่วนเรื่องปรองดองหยุดเดินสาย ให้ “บิ๊กบัง” แสดงฝีมือ เผย ถ้าทำได้ก็ดีใจ วอนทุกฝ่ายทำใจเหมือนน้ำแข็ง ชี้ หากให้ “ทักษิณ” หยุดทำผิดต้องช่วยกันพูด
วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ในรายการนิวส์อาว ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ถึงกรณีที่ นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ขวัญชัย ไพรพนา แกนนำชมรมคนรักอุดร ออกมาระบุว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก ได้ประชุมลับร่วมกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อล้มรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่โรงแรมเดอะ โบนันซ่า เขาใหญ่ รีสอร์ท จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตนกับ พล.อ.ดาว์พงษ์ ยังไม่เคยพบกันเลย สมัยตนเป็นประธานเรื่องชายแดนก็ประชุมร่วมกันเท่านั้น ทั้งนี้ ตนมีอาการท้องเสีย โดยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่ก่อนวันที่ 25 มิ.ย.ด้วย ฉะนั้น นายขวัญชัย คงได้ข่าวสารที่ไม่ตรง คงมีคนแอบอ้างแล้วไปบอกนายขวัญชัยว่า เป็น พล.อ.ดาว์พงษ์ หรือตนซึ่งอาจเป็นคนหน้าเหมือนก็ได้
ทั้งนี้ หลังจากเปลี่ยนรัฐบาล ตนและ พล.อ.ดาว์พงษ์ ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เพราะไม่มีภารกิจอะไรที่ต้องติดต่อกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ เป็นรอง ผบ.ทบ.ตนเป็น ส.ส.ซึ่งไม่เกี่ยวพันกัน อีกทั้งไม่เคยเจอกัน นอกจากไปงานแต่งงานก็ทักทายกันเท่านั้น ฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องจริง และฝากถึงนายขวัญชัย ว่า มันเป็นข่าวสาร ฉะนั้น ต้องให้ได้กลั่นกรองเสียก่อน ทั้งนี้ตนได้ฝากบอกความจริงว่าตนยังอยู่ในโรงพยาบาล ผ่าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อบอกถึงนายขวัญชัยแล้ว ซึ่งตนกับนายณัฐวุฒิ ก็รักกัน ตนเป็นนักการเมืองจะคิดเรื่องปฏิวัติรัฐประหารมันเป็นไปไม่ได้
เมื่อถามว่า นายขวัญชัย ระบุว่า ช่วงนี้มีอำนาจพิเศษส่งสัญญาณปฏิวัติเงียบล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีแนวโน้มอย่างไร พลตรีสนั่นกล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยิน และไม่เคยว่าฝ่ายทหารหรือกองทัพคิดเช่นนี้ ส่วนใหญ่ตนมีข่าวกรองของตนอยู่ ฉะนั้นเรื่องอย่างนี้ยังไม่เคยได้ยินใครเลย การเมืองก็ว่ากันในสภาไป แต่การปฏิวัติรัฐประหารตนยังไม่เคยได้ยินเลย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกก็ประกาศชัดตลอดว่าไม่มีการปฏิวัติ ตนคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้มาช่วยกันดีกว่า ช่วยกันระมัดระวังอย่าให้เกิดปัญหาความขัดแย้งที่มีความรุนแรงขึ้น ดีกว่ามาพะวงเรื่องปฏิวัติ ตนเห็นว่าเรามาช่วยกันทำอย่างไรให้เกิดความเข้าใจกันทุกฝ่ายจะดีกว่า
เมื่อถามว่า การปฏิวัติอาจจะไม่ได้นำรถถังออกมา แต่เป็นการปฏิวัติเงียบ อาจมีการคล้ายเปลี่ยนไปเป็นยุครัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พลตรี สนั่น กล่าวว่า ไม่มี ตนเห็นว่า มันเป็นไปไม่ได้ เสียงในสภารวมกันอย่างไรมันก็ไม่พอ มันต้องคิด ถ้าการวิเคราะห์ทางการเมือง เราก็ต้องวิเคราะห์ ว่า พรรคเพื่อไทยเกินกึ่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไร พรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน จะไปรวมกันอย่างไร ก็ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้ เมื่อถามว่าจากการวิเคราะห์และข่าวกรอง รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ จะอยู่ได้ยาวหรือไม่ แค่ไหน พลตรี สนั่น กล่าวว่า ยังอยู่ ขอให้นายกรัฐมนตรีตั้งใจทำงานแบบนี้ ส่วนคณะรัฐมนตรีขอให้พยายามที่จะทำงานเพื่อประชาชน ตนว่าอยู่ได้ ไม่น่าจะมีปัญหา ความขัดแย้งในสภาย่อมมีแน่ ฝ่ายค้านย่อมคอยจับว่าตัวนี้เป็นอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ เช่น กรณีนาซา ก็ดูว่าจะมีผลกระทบกระเทือนต่อประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ จะระแวงสงสัยหรือไม่ ก็ขอให้ชี้แจงรายละเอียด แบบนี้มันต้องมีแน่ การเมืองมันจะไปนิ่งเป็นตอนน้ำไม่มีลมมันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีคลื่นมันก็เป็นไปไม่ได้
เมื่อถามว่า ในทางการเมืองมีระเบิดเวลาอยู่หลายลูก เช่น ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 ขัดกับมาตรา 68 หรือไม่ อีกทั้งยังมีเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง อีก ถือว่าเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ พลตรี สนั่น กล่าวว่า อุบัติเหตุจากการปฏิวัติรัฐประหารเป็นไปไม่ได้ จะล้มรัฐบาลก็เป็นไปไม่ได้ ฉะนั้น รัฐบาลเองอะไรที่ควรไม่ควรก็ขอให้พิจารณา นี่พูดอย่างตอนเป็นรัฐบาลนะ ฉะนั้น ก็ขอให้พิจารณาให้ดีเท่านั้นเอง อะไรที่เห็นว่ามีความขัดแย้งสูงก็ชะลอกันไว้บ้าง และทำความเข้าใจ ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ทำไป และไม่ควรตอบโต้กันรุนแรง ไม่ควรจะกระทบต่อพวกกลุ่มสีต่างๆ ประคับประคองกันไปเถิด บ้านเมืองมันจะได้ค่อยๆ เข้าใจกันทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งสัญญาณว่า ในการเปิดประชุมสภา วันที่ 1 ส.ค.นี้ จะขอให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ออกไปก่อน คล้ายกับการปลดชนวนออกไปก่อน เห็นว่าอย่างไร พลตรี สนั่น ตอบว่าก็ดี ถ้าอะไรที่ความขัดแย้งมันสูง แล้วเราชะลอไว้ก่อนก็ดี แล้วค่อยๆ ไปให้รัฐบาลแก้ปัญหาประชาชน เรื่องน้ำท่วม เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องสังคม ที่มันเลวร้ายลง ในปัจจุบัน ค่อยๆ แก้ รัฐบาลก็อยู่ได้ครบเทอม ตนยังไม่เห็นมีตัวแปรอะไรที่ทำให้รัฐบาลต้องล้ม เพียงแต่ว่าอย่าไปสร้างมันขึ้นมา อย่างตนบอกไปปฏิวัติกับเขา ตนอายุ 77 ปีแล้ว ไฟไม่มีปฏิวัติแล้ว
เมื่อถามว่า มีคนขอคำปรึกษาเกี่ยวกับทางออกในสถานการณ์การเมืองหรือไม่ พลตรี สนั่นกล่าวว่า ตนเจอใครตนก็พูด เรื่องปรองดองต้องเกิดขึ้น อย่าให้รบราฆ่าฟันกันเอง อย่าให้สงครามการเมืองมันเกิดเลย ทุกฝ่ายที่พบปะกันก็บอกว่าทำใจให้เป็นน้ำแข็งหน่อย เย็นๆ อย่าใช้ความรุนแรงเข้ามาแก้ปัญหา มันไม่สำเร็จหรอก เราก็ดูประเทศต่างๆ อย่างซีเรีย ยังไม่จบ อียิปต์ก็มีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะความขัดแย้งทางการเมืองทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องช่วยกันดูแลด้วย ในฐานะที่อยู่มานาน เมื่อถามว่า ตอนนี้ยังเดินสายหรือไม่ พลตรี สนั่น กล่าวว่า ตนขอหยุดก่อน เดี๋ยวจะไปแข่งกับการปรองดองของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ใครทำสำเร็จตนก็ดีใจ ตนอยากเห็นคนไทยหันมาอภัยให้กัน ช่วยกันลืมอดีตเสีย ข้ามมันไปให้พ้นสิ่งที่เคียดแค้นทั้งหลาย มันถึงจุดนั้นได้ ค่อยๆ พูดจากันเถอะ
เมื่อถามว่า ต้องยอมรับความขัดแย้งที่ยังไม่จบ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่หยุด ต้องการเอาทรัพย์สินคืน พลตรี สนั่น กล่าวว่า ต้องค่อยๆ พูดจากัน พ.ต.ท.ทักษิณ ตนก็เคยพบกัน เขาก็คิดว่าเขาถูกรังแก เราก็บอกว่า ใจเย็นๆ ท่านนายกฯ ใจเย็นๆ หาทางแก้กันไป อารมณ์ก็ดีขึ้น เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันต้องพูดกันรู้เรื่องทั้งสิ้น ตนว่าไม่ใช่ใช้ทีเดียวให้สำเร็จ ต้องพูดจากันไปเรื่อยๆ เมื่อถามว่า ทุกวันนี้เชื่อหรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้คุยกันโดยตรง ปัญหาจะจบ ยังเชื่ออยู่อย่างนั้นหรือไม่ พลตรี สนั่น กล่าวว่า ตนเห็นว่า ทุกอย่างมันจะดีขึ้น มันจะคลี่คลาย ทั้งๆ ที่หลายคนบอกว่าไม่ใช่คู่กรณี ซึ่งโดยข้อเท็จจริงจะต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน อะไรที่มันแคลงใจก็ถามกันพูดกัน ความแคลงใจมันก็หายไป ทุกอย่างมันก็ดีขึ้น ตนเชื่อทฤษฎีอย่างนี้
เมื่อถามว่า หากอ่านใจ พ.ต.ท.ทักษิณ จะยอมถอนชนวน พ.ร.บ.ปรองดอง ตามที่ประธานสภาเสนอหรือไม่ พลตรี สนั่น กล่าวว่า ไม่ทราบ อันนี้ไม่ทราบ และตนก็เพิ่งได้ยิน ถ้าประธานจะถอนตนยังไม่ทราบเลย ระยะนี้ไม่ค่อยได้อยู่เลย ที่บอกตนไม่ได้ลงคะแนน หรืออะไรก็ตาม ตนอยู่ต่างประเทศ เมื่อถามว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยหรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เอาด้วย ยังเดินหน้าต่อ ได้อ่านสถานการณ์นี้ไว้อย่างไร พลตรี สนั่น กล่าวว่า ก็ต้องระมัดระวังกัน เช่น การแก้รัฐธรรมนูญตนเห็นด้วย จะแก้ตรงไหน มาตราอะไรก็ว่ากันไป ถ้าการปรองดองคนไม่เห็นด้วยมาก เราควรจะชะลอไว้ก่อน แล้วหาทางพูดจากัน ตนยังไม่เห็นว่ากฎหมายปรองดองกับกฎหมายนิรโทษมารวมกัน คนมันช็อก ถ้าบอกว่าเราขอกฎหมายนิรโทษกรรมเลยดีกว่า บอกกันตรงๆ มันจะไปได้ดีกว่า ถ้าเอามารวมแล้วปนเปกันอย่างนี้คนมันไม่เข้าใจ การปรองดองต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นตนยังมีแนวคิดของตนว่าจะต้องเดินเรื่องปรองดองต่อไป
เมื่อถามว่า เมื่อเดินหน้าปรองดองยังเห็นความหวังหรือไม่ พลตรี สนั่น กล่าวว่า ตนยังเห็นความหวัง การปรองดองของคนไทย คนไทยเป็นคนที่จิตใจเอื้อเฟื้อ อ่อนน้อม รู้จักอภัย มันเป็นเรื่องไม่ยาก จะต้องใช้เวลา ตนเดินไปพรรคโน้นพรรคนี้ เดินไปสมาคมอุตสาหกรรม หอการค้า ทำความเข้าใจเรื่อย แม้กระทั่งกลุ่มนิสิตนักศึกษาก็ไป ก็พยายามชี้แจงให้เข้าใจ แต่หากจะให้ทีเดียวบอกสำเร็จมันเป็นไปไม่ได้ เมื่อถามว่า แต่ต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เห็นแก่ตัวก่อน ความขัดแย้งมันถึงจบลง พลตรี สนั่น กล่าวว่า ก็ต้องช่วยกันพูด อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ช่วยกันพูดไป หัวใจของ พ.ต.ท.ทักษิณทำด้วยเนื้อ ไม่ได้ทำด้วยหิน น้ำหยดลงหิน หินมันยังกร่อน เมื่อถามว่า สิ่งที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง คือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ถ้าศาลบอกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ขัดต่อมาตรา 68 รัฐบาลชุดนี้ก็อยู่ไม่ได้ พลตรีสนั่น กล่าวว่า จากการประเมินตนเห็นว่าคงไม่ถึงขั้นนั้น ในตอนท้ายพลตรีสนั่นกล่าวว่า ตนมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง และขณะนี้ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล