กองทัพบกปฏิเสธ “ดาว์พงษ์-เสธ.หนั่น” ประชุมลับล้มรัฐบาลที่โบนันซ่า เขาใหญ่ ชี้ “ขวัญชัย” กุข่าว ติงสื่อควรตรวจสอบก่อนนำเสนอ รองโฆษก ทบ.เผยเผยกองทัพบกใช้ทุกมาตรการในการสกัดกั้นอาวุธสงคราม-ยาเสพติด โชว์ผลงานจับกุมอาวุธสงครามรายใหญ่ที่ อ.แม่สาย ระบุเป็นการร่วมมือกันของทุกฝ่าย
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่ามีกลุ่มคนที่เคยร่วมกันล้มรัฐบาลพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนไปประชุมลับที่โบนันซ่า เขาใหญ่ โดยมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนาร่วมอยู่ด้วยว่า กองทัพบกขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และการเสนอข่าวใดๆ ที่จะส่งผลกระทบถึงตัวบุคคลที่เป็นข่าวและองค์กรไม่ได้เป็นผลดีต่อสังคมและประเทศที่กำลังก้าวไปข้างหน้า ทั้งนี้ การให้ข่าวสารใดๆ ผู้ให้ข่าวจะต้องรับผิดชอบ และสื่อมวลชนควรให้มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อนนำเสนอ ขอให้ทุกท่านได้เชื่อมั่นต่อการทำหน้าที่ของกองทัพบก โดยเฉพาะในปัจจุบันสถานการณ์ทั่วไปมีความละเอียดอ่อน ทั้งนี้ กองทัพบกขอยืนยันว่ายังคงมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ดูแลประเทศชาติ และประชาชนให้ดีที่สุด
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมืองจับกุมอาวุธสงครามจำนวนมากได้ที่ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมถึงการจับกุมเฮโรอีน น้ำหนัก 3.5 กิโลกรัมได้ที่ บ.เวียงหอม ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า สืบเนื่องจากการบูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองทัพบกในด้านการข่าวและการวางแผน รวมถึงการสนธิกำลังเข้าสกัดกั้นจับกุมในทุกพื้นที่ ทำให้เกิดผลการปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพสามารถจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดและอาวุธสงคราม ซึ่งทั้งสองเรื่องกองทัพบกถือเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
โดยกองกำลังชายแดนของกองทัพบกได้เฝ้าติดตามตรวจสอบข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่าที่ยังคงปรากฏการกระทำความผิดในการนำอาวุธสงครามออกไปจำหน่ายให้กับชนกลุ่มน้อยในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแลกเปลี่ยนกับยาเสพติด โดยอาวุธสงครามดังกล่าวส่วนหนึ่งได้ถูกนำไปใช้ในการคุ้มกันขบวนการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้าประเทศอีกด้วย
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา กองกำลังผาเมืองสามารถจับกุมอาวุธสงครามจำนวนมากได้ที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย และการจับกุมอาวุธสงครามเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ถือเป็นความร่วมมือของทุกฝ่ายและเป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าประเทศไทยไม่ให้การสนับสนุนการดำเนินการใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อกิจการภายในของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเรื่องอาวุธสงครามที่เกี่ยวโยงกับชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน อย่างไรก็ตาม กองทัพบกจะยังคงใช้ทุกมาตรการในการสกัดกั้นอาวุธสงครามและยาเสพติด เพื่อไม่ให้เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมทั้งยังคงยึดมั่นในนโยบายที่ไม่ให้การสนับสนุนการดำเนินการใดๆ ที่อาจจะส่งผลต่อกิจการภายในของประเทศเพื่อนบ้าน