อดีตกุนซือ รมว.ศธ.โยนดุลพินิจนายกฯ ปรับ ครม. อ้างปฏิรูปการศึกษาไม่ได้เหตุกฏกระทรวงเป็นอุปสรรค รับทัศนะปราบโกงขัดแย้ง “สุชาติ” เพราะเจ้าตัวมองหัวโขนเป็นแค่พระเทศน์โจร แถมค้านสอบทุจริต ยันนั่งบริหารไม่ได้ สุดงงห่วงนักเรียนทุนมากกว่าเด็กในประเทศ โวยปล่อยเผชิญชะตากรรมรับศึกบดินทร์แทน ยันแจ้งพรรคแล้วรอบนี้ต้องเปลี่ยนแปลง
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายประแสง มงคลศิริ อดีตที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมสปริงนิวส์ ถึงกรณีนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ออกมาระบุรัฐบาลจะอยู่ไม่ถึงสิ้นปีว่า เรื่องการปรับ ครม.เป็นดุลพินิจของนายกฯ ที่จะพิจารณาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งตนอยู่กับนายสุชาติมา 5 เดือน ก่อนหน้านี้ตนอยู่กับนางบุญรื่น ศรีธเรศ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ในความเป็นจริงตนกับนายสุชาติรู้จักกันมา 12-13 ปี ซึ่งปัญหาภายในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อยู่มาดั้งเดิม โดยฝ่ายบริหารคือฝ่ายการเมืองจำเป็นจะต้องเข้ามา และขณะนี้อยู่ในระยะเวลาของปฏิรูปการศึกษา แต่ไม่สามารถปฏิรูปได้ จึงเป็นปัญหาที่ต้องตอบเพื่อน ส.ส. ครู และผู้ปกครอง เพราะสภาพแวดล้อมขณะนี้ไม่เอื้อให้ทำหน้าที่ได้เต็มที่ เนื่องจากกฎระเบียบต่างๆ ของ ศธ. เป็นอุปสรรคต้องใช้เวลาในการปลดล็อก เพราะ ศธ.เป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ ต้องขับเคลื่อนคน 8 แสนคน จึงต้องทำงานภายใต้แรงกดดัน หากไม่ใช้เวลาทุ่มเท ใช้บุคลากรที่แข็งแกร่งจัดการปัญหา หากมาทำงานในลักษณะติดตามเป็นปลัดอาวุโสก็จะได้แค่นี้
“ผมได้คุยกับคุณสุชาติหลายครั้งในเรื่องทุจริตการจัดซื้อครุภัณฑ์ของอาชีวศึกษาในงบไทยเข้มแข็ง ทัศนะการมองปัญหาทุจริตของผมกับคุณสุชาติต่างกันสิ้นเชิง โดยท่านปรารภกับผมว่ามาทำหน้าที่ รมต.เป็นได้แค่พระ เทศน์ให้โจรผู้ร้ายเห็นดีเห็นชอบในบาป เมื่อเทศน์เสร็จก็คว้าตาลปัตรไป การปราบโจรเป็นหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ช. ปปง. การมองอย่างนี้ผมว่าโลกแตก คนชั่วจะครองเมือง ท่านไม่เห็นด้วยกับการที่ผมเดินหน้าตรวจสอบทุจริต และท่านก็ทำหน้าที่ตรวจเยี่ยมนักเรียนทุนในต่างประเทศ ท่านห่วงนักเรียนกลุ่มนี้มากกว่าจนผมแปลกใจ ซึ่งไม่ทราบว่านักเรียนต่างประเทศประสบชะตากรรมอะไรที่ต่างจาก ร.ร.วัดหนองหมาว้อ ส่วนม็อบบดินทรฯ อุเทนฯ ก็ปล่อยเป็นหน้าที่ให้ผมต้องเผชิญ ตัวคุณสุชาติไม่มีปัญหาในบุคลิกภาพส่วนตัว แต่มานั่งบริหาร ศธ.ไม่ได้ เพราะตัวกฎระเบียบเป็นเงื่อนไขให้ขับเคลื่อนยาก ข้าราชการบางส่วนก็อยู่ในกลไกระดับบนจึงเป็นอุปสรรค หากรู้ไม่เท่าทันการจัดการ ก็จะเป็นสมภารไก่แก่คนหนึ่งที่มาทำหน้าที่ ขณะที่ประเทศไม่สามารถรั้งรอสิ่งเหล่านี้ได้ ที่ผ่านมาผมทำงานสัมผัสกับคุณสุชาติ มองเห็นจุดอ่อนต่างๆ ที่เป็นปัญหาในภาพรวม และได้สะท้อนหลายสิ่งให้พรรคทราบหากเราต้องการปฏิรูปการศึกษาให้เกิดจริง รอบนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง” นายประแสงกล่าว