“อนุดิษฐ์” เผย บ.หัวเว่ย ประมูลแท็บเล็ต นร. เหตุเพราะราคาสูงกว่างบที่ รบ.ตั้งไว้ ระบุ ชงวาระเข้า ครม.ได้ช้าสุดถึงปลายเดือนนี้ ยัน คกก.ตรวจสอบโครงการยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เปรย 3 บ.ที่เข้ารอบมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
วันนี้ (13 มี.ค.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวในรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ กรณีที่มีข่าวออกมาว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 13 มี.ค.นี้ จะยังไม่มีการพิจารณาในวาระเรื่องการพิจารณาจัดซื้อแท็บเล็ตให้กับนักเรียนตามโครงการของรัฐบาล ว่า ตนยืนยันว่า สาเหตุที่เรายังไม่สามารถที่จะนำวาระในเรื่องการจัดซื้อแท็บเล็ตเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ได้ เนื่องจากเราต้องการให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและกลั่นกรองเงื่อนไขต่างๆ ให้มากที่สุด ก่อนที่จะมีการบรรจุวาระเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.และเรื่องนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดูให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติ
เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าสาเหตุที่โครงการนี้ต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากบริษัท หัวเว่ย ได้ถูกตัดออกจากการเข้าประมูลงาน น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า ไม่มีเกี่ยวข้องในเรื่องที่กล่าวถึงอย่างแน่นอน และการที่บริษัท หัวเว่ย ได้ถูกตัดออกจากการเข้าประมูลครั้งนี้ เนื่องจากบริษัท หัวเว่ย ได้มีการยื่นเสนอราคาที่มีวงเงินเกินกว่าที่รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณเอาไว้จำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้การดำเนินโครงการของรัฐบาลเกิดความยากลำบากในการดำเนินงานได้ รวมทั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการนี้ จะสามารถชี้แจงในรายละเอียดในเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน
“หากเราลองประเมินดูว่า ราคาเครื่องแท็บเล็ตตามโครงการนี้น่าจะมีราคาอยู่ประมาณ 80-100 เหรียญ/เครื่อง แต่การเสนอของบริษัท หัวเว่ย เสนอเข้ามาโดดไปถึง 130 กว่าเหรียญ/เครื่อง ซึ่งราคาตรงนี้จะทำให้กระทบกับโครงการอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องเงื่อนไขอื่นๆ ทั้งหมดทั้ง 4 บริษัทมีความสามารถที่ใกล้เคียงกันไม่มีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องเทนิค ความสามารถในการผลิต มาตราฐานของโรงงานทุกบริษัทมีความใกล้เคียงกันไม่มีปัญหา” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในการหารือกันในวันนี้ของในส่วนคณะกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหาข้อสรุปได้หรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า วันนี้คณะกรรมการบริหารนโยบาย อย่างไรก็ตามหลักการพิจารณาคัดเลือกไม่ได้เกี่ยวข้องกับราคาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีประเด็นเงื่อนไขเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การบริการหลังการขาย การรับประกัน ความน่าเชื่อของโรงงาน อัตราการผลิต การส่งมอบงวดงาน ถึงแม้ว่าการจัดซื้อครั้งนี้จะเป็นการจัดซื้อแบบจีทูจี ซึ่งจะได้รับการยกเว้นการจัดหาวัสดุก็จะทำให้การดำเนินการโครงการง่ายขึ้น แต่คณะกรรมการที่ดูแลจะต้องมีความระมัดระวังการดำเนินโครงการนี้ให้มาก และที่ผ่านมา ได้เรียก 3 บริษัทที่ผ่านการพิจารณาเบื้่องต้นมายืนยันการบันทึกในเรื่องเอกสารให้ครบ เพื่อไม่ให้มีปัญหาข้อโต้แย้ง ว่า บริษัททั้ง 3 แห่ง แต่ละบริษัทมีการเสนอเงื่อนไขข้อเสนอทุกเรื่องทั้งหมดที่มีว่าจะเสนออย่างไรบ้าง ซึ่งทุกเรื่องที่คณะกรรมการดำเนินการที่ผ่านมาถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยในขณะนี้ทั้งสามบริษัทได้ส่งข้อเสนอ และเงื่อนไขต่างๆ เข้ามายังคณะกรรมการทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่า ในการประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้าคาดว่า จะนำวาระเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ได้ใช่หรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การนำวาระเรื่องนี้เข้าในสัปดาห์หน้า หรือสัปดาห์ถัดไป ตนมั่นใจว่า คงจะไม่มีปัญหากระทบในเรื่องเงื่อนไขของระยะเวลาของโครงการ เรื่องนี้เราไดมีการประเมินกันไว้เรียบร้อยแล้วว่าเราควรจะต้องเร่งกันในช่วงไหน
เมื่อถามว่า ได้มีการกำหนดกันหรือไม่ว่าการส่งมอบแท็บเล็ตล็อตแรกจะต้องมาถึงภายช่วงเวลาใด น.อ.อนุดิษฐ์ ประมาณช่วงต้นเดือนพฤษาคม ทางบริษัทจะต้องทะยอยส่งเข้ามา หลังจากนั้นบริษัทไปรษณีย์ไทยจะเข้ามาดูแลรับผิดชอบในการจัดส่ง ดังนั้นการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของครม.อย่างช้าจะอยู่ในช่วงวันอังคารที่ 20 หรือ 27 มีนาคมนี้ แต่หากเกินจากนั้นโครงการอาจจะล่าช้าไปแล้ว
วันนี้ (13 มี.ค.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวในรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ กรณีที่มีข่าวออกมาว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 13 มี.ค.นี้ จะยังไม่มีการพิจารณาในวาระเรื่องการพิจารณาจัดซื้อแท็บเล็ตให้กับนักเรียนตามโครงการของรัฐบาล ว่า ตนยืนยันว่า สาเหตุที่เรายังไม่สามารถที่จะนำวาระในเรื่องการจัดซื้อแท็บเล็ตเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ได้ เนื่องจากเราต้องการให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและกลั่นกรองเงื่อนไขต่างๆ ให้มากที่สุด ก่อนที่จะมีการบรรจุวาระเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.และเรื่องนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดูให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติ
เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าสาเหตุที่โครงการนี้ต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากบริษัท หัวเว่ย ได้ถูกตัดออกจากการเข้าประมูลงาน น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า ไม่มีเกี่ยวข้องในเรื่องที่กล่าวถึงอย่างแน่นอน และการที่บริษัท หัวเว่ย ได้ถูกตัดออกจากการเข้าประมูลครั้งนี้ เนื่องจากบริษัท หัวเว่ย ได้มีการยื่นเสนอราคาที่มีวงเงินเกินกว่าที่รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณเอาไว้จำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้การดำเนินโครงการของรัฐบาลเกิดความยากลำบากในการดำเนินงานได้ รวมทั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการนี้ จะสามารถชี้แจงในรายละเอียดในเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน
“หากเราลองประเมินดูว่า ราคาเครื่องแท็บเล็ตตามโครงการนี้น่าจะมีราคาอยู่ประมาณ 80-100 เหรียญ/เครื่อง แต่การเสนอของบริษัท หัวเว่ย เสนอเข้ามาโดดไปถึง 130 กว่าเหรียญ/เครื่อง ซึ่งราคาตรงนี้จะทำให้กระทบกับโครงการอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องเงื่อนไขอื่นๆ ทั้งหมดทั้ง 4 บริษัทมีความสามารถที่ใกล้เคียงกันไม่มีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องเทนิค ความสามารถในการผลิต มาตราฐานของโรงงานทุกบริษัทมีความใกล้เคียงกันไม่มีปัญหา” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในการหารือกันในวันนี้ของในส่วนคณะกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหาข้อสรุปได้หรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า วันนี้คณะกรรมการบริหารนโยบาย อย่างไรก็ตามหลักการพิจารณาคัดเลือกไม่ได้เกี่ยวข้องกับราคาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีประเด็นเงื่อนไขเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การบริการหลังการขาย การรับประกัน ความน่าเชื่อของโรงงาน อัตราการผลิต การส่งมอบงวดงาน ถึงแม้ว่าการจัดซื้อครั้งนี้จะเป็นการจัดซื้อแบบจีทูจี ซึ่งจะได้รับการยกเว้นการจัดหาวัสดุก็จะทำให้การดำเนินการโครงการง่ายขึ้น แต่คณะกรรมการที่ดูแลจะต้องมีความระมัดระวังการดำเนินโครงการนี้ให้มาก และที่ผ่านมา ได้เรียก 3 บริษัทที่ผ่านการพิจารณาเบื้่องต้นมายืนยันการบันทึกในเรื่องเอกสารให้ครบ เพื่อไม่ให้มีปัญหาข้อโต้แย้ง ว่า บริษัททั้ง 3 แห่ง แต่ละบริษัทมีการเสนอเงื่อนไขข้อเสนอทุกเรื่องทั้งหมดที่มีว่าจะเสนออย่างไรบ้าง ซึ่งทุกเรื่องที่คณะกรรมการดำเนินการที่ผ่านมาถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยในขณะนี้ทั้งสามบริษัทได้ส่งข้อเสนอ และเงื่อนไขต่างๆ เข้ามายังคณะกรรมการทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่า ในการประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้าคาดว่า จะนำวาระเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ได้ใช่หรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การนำวาระเรื่องนี้เข้าในสัปดาห์หน้า หรือสัปดาห์ถัดไป ตนมั่นใจว่า คงจะไม่มีปัญหากระทบในเรื่องเงื่อนไขของระยะเวลาของโครงการ เรื่องนี้เราไดมีการประเมินกันไว้เรียบร้อยแล้วว่าเราควรจะต้องเร่งกันในช่วงไหน
เมื่อถามว่า ได้มีการกำหนดกันหรือไม่ว่าการส่งมอบแท็บเล็ตล็อตแรกจะต้องมาถึงภายช่วงเวลาใด น.อ.อนุดิษฐ์ ประมาณช่วงต้นเดือนพฤษาคม ทางบริษัทจะต้องทะยอยส่งเข้ามา หลังจากนั้นบริษัทไปรษณีย์ไทยจะเข้ามาดูแลรับผิดชอบในการจัดส่ง ดังนั้นการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของครม.อย่างช้าจะอยู่ในช่วงวันอังคารที่ 20 หรือ 27 มีนาคมนี้ แต่หากเกินจากนั้นโครงการอาจจะล่าช้าไปแล้ว
