นักวิทย์หนุนโครงการศึกษาเมฆ แต่หวั่นมะกันใช้อู่ตะเภาแล้วอยู่ยาว

ผศ.ดร.ศิวัช ชี้กรณีสหรัฐฯ ใช้อู่ตะเภา อย่าด่วนสรุปมองแค่มุมใดมุมหนึ่ง ควรเปิดดีเบตจากทุกแขนง เพื่อชั่งน้ำหนักได้คุ้มเสียหรือไม่ ระบุมองในแง่นักวิทยาศาสตร์ด้วยจิตบริสุทธิ์ หนุนโครงการศึกษาเมฆฯ ในครั้งนี้ แต่หวั่นสหรัฐฯ อ้างเหตุผลต่างๆ นานาขออยู่ยาว พร้อมแนะรัฐบาลต้องอธิบายให้ประชาชนที่เห็นต่างเข้าใจ แม้ช้าหน่อยก็ยังดีกว่าเอาใจอเมริกาจนไม่ฟังคนในประเทศ

วันที่ 26 มิ.ย. ผศ.ดร.ศิวัช พงษ์เพียจันทร์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการลำน้ำโขง ร่วมในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

ผศ.ดร.ศิวัชกล่าวว่า คำถามที่ว่าทำไมต้องเป็นอู่ตะเภา เพราะเมื่อลองลากเส้นดู อู่ตะเภามันครอบคลุมภูมิภาคเกือบทั้งหมด หากมองแบบนักวิทยาศาสตร์ด้วยจิตบริสุทธิ์ มองว่าโครงการ (ศึกษาเกี่ยวกับการก่อตัวของเมฆที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) นี้ดี เอาเลย แต่เมื่อมีข้อสงสัยอื่นๆก็ต้องชั่งน้ำหนัก ตอนนี้ตนว่าเร็วเกินไปที่จะมองแค่มุมใดมุมหนึ่ง มันต้องมองทุกมิติแล้วชั่งน้ำหนัก อะไรได้อะไรเสีย คุ้ม-ไม่คุ้ม ควรให้นักวิชาการทุกแขนงมาดีเบตกันเลย

ที่สำคัญต้องเอาความจริงมาพูด อย่างตนเป็นนักวิทยาศาสตร์ ก็ต้องเอาสิ่งที่คนยอมรับแล้วออกมาพูด พยายามให้ความรู้ไปเรื่อยๆ แล้วความรู้ก็จะขับเคลื่อนประชาชนเอง

ส่วนเรื่องการพัฒนาอาวุธเพื่อความมั่นคงก็เป็นเรื่องน่าคิด และเป็นประเด็นด้วย แต่เรื่อง H.A.R.R.P. ต้องยอมรับว่านักวิทยาศาสตร์กระแสหลักตอนนี้ไม่มีใครกล้าออกมาฟันธงว่ามีจริงหรือไม่ เป็นเรื่องที่ชวนให้คิด ถึงมีก็ไม่แปลก แต่ยังไม่มีใครกล้าออกมายืนยัน โดยเฉพาะการเล่นกับธรรมชาติมันไม่ง่าย ทฤษฎีที่อยู่ภายใต้โครงการนี้มีหลายอย่างที่ตนยังไม่เข้าใจ แต่ถ้าใช้เพื่อการเบี่ยงเบนวิถีจรวจอันนี้พอเข้าใจได้ แต่ถึงขั้นทำให้แผ่นดินไหว ตนว่ายังขาดความรู้อีกหลายจุดที่จะมาเชื่อมโยงได้

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี ยกตัวอย่างสมมติตนเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียนฟิสิกส์มา อยู่ในเมืองไทย องค์ความรู้ตนที่มีตอนนั้นมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่สหรัฐฯ จะสามารถทิ้งแค่ระเบิดนิวเคลียร์ลูกเดียวทำให้ฮิโรชิมาราบเป็นหน้ากลองได้ ที่ถูกต้องที่สุดตอนนี้ คือ เราไม่รู้ เขาอาจปิดอะไรบางอย่างไว้ก็ได้ แต่เท่าที่รู้ตอนนี้ไม่น่าไปถึงขั้นนั้นได้

ผศ.ดร.ศิวัชกล่าวต่อว่า ที่ตนกังวลคือสิ่งที่จะเกิดตามมา สมมติเขาเข้ามาแล้ว 2 เดือน ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องอยู่ต่อเช่นต้องเก็บข้อมูลเพิ่ม เพราะอากาศแต่ละช่วงมันก็ต่างกัน แล้วความแตกต่างระหว่างปีอีก อย่างนี้ต้องยืดเวลาออกไป หรือปีหน้าก็ต้องมาอีกหรือไม่ เพราะเหตุผลสร้างความชอบธรรมมีได้ร้อยแปดพันเก้า ตนขอฝากนักวิชาการ วิทยาศาสตร์ ที่ออกมายืนยันเรื่องนี้ว่ากล้ายันหรือไม่ว่าเข้ามาแค่ 2 เดือน แต่ถ้าจะยืดต่อไป สามารถไล่ออกไปได้หรือไม่ แล้วตรงนี้ก็อยู่นอกเหนือจากการควบคุมของตัวเราเองด้วย

โครงการนี้ดี ส่วนตัวอยากให้เกิด แต่มันดันเกิดผิดที่ผิดเวลา มาประจวบเหมาะกับหลายๆเรื่อง เลยอดไม่ได้ที่จะตั้งข้อสงสัย แต่เมื่อมีมวลชนไม่สบายใจก็ต้องใช้เวลาอธิบายจนกว่าจะเข้าใจ ช้าไปอาจเสียโอกาส แต่ทำไมจะรอไม่ได้ รัฐบาลเอาใจสหรัฐฯ กับฟังความเห็นประชาชนในประเทศ อันไหนสำคัญกว่า