เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ที่ประชุมสมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (เอสซีโอ) ซึ่งนำโดยจีนและรัสเซีย ออกแถลงการณ์คัดค้านการใช้กำลังทหารโจมตีอิหร่านและซีเรียทุกรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่า จะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลก วันนี้(7)
“ความพยายามใช้การทหารเข้าแก้ไขปัญหาอิหร่านทุกรูปแบบถือว่ารับไม่ได้ และจะนำไปสู่สถานการณ์อันยากจะคาดเดา ที่เป็นภัยคุกคามทั้งต่อภูมิภาคและทั่วโลก” เอสซีโอ ระบุในแถลงการณ์ หลังสิ้นสุดการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งประธานาธิบดี มะห์มูด อาห์มาดิเนจัด แห่งอิหร่าน ก็เดินทางเข้าร่วมด้วย
แถลงการณ์ฉบับนี้ยังเผย “ความกังวลต่อสถานการณ์รอบๆอิหร่าน” ซึ่งอยู่ในฐานะผู้สังเกตการณ์การประชุมระหว่างกลุ่มประเทศเอเชียกลาง ได้แก่ จีน, รัสเซีย, คาซัคสถาน, ทาจิกิสถาน, อุซเบกิสถาน และคีร์กีซสถาน
ตะวันตกเชื่อว่า อิหร่านกำลังพยายามพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ โดยเอาโครงการผลิตพลังงานเพื่อพลเรือนมาบังหน้า แต่เตหะรานก็ยืนยันว่า โครงการนิวเคลียร์นั้นมีจุดประสงค์เชิงสันติ
นายกรัฐมนตรี เวิน เจียเป่า ของจีนกล่าวต่อผู้นำอิหร่านวานนี้(6)ว่า ปักกิ่งไม่เห็นด้วยหากประเทศใดในตะวันออกกลางจะพยายามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน
“จีนไม่เห็นด้วยที่ประเทศใดก็ตามในตะวันออกกลางจะพยายามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และเชื่อว่าปัญหานิวเคลียร์อิหร่านควรจะคลี่คลายด้วยวิธีทางการทูตที่มีความเป็นกลาง” เวิน กล่าว
ที่ประชุมเอสซีโอยังเรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตการณ์ในซีเรียอย่างสันติ โดยอาศัยการเจรจาทางการเมืองเป็นหลัก
“สมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ไม่เห็นด้วยที่จะส่งทหารเข้าแทรกแซงกิจการภายในภูมิภาคนี้ ตลอดจนการบังคับให้ต้องสละอำนาจ หรือใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียว” ถ้อยแถลงระบุ โดยอ้างถึงกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
มอสโกและปักกิ่งยังคงจุดยืนคัดค้านหากประชาคมโลกจะเข้าไปแทรกแซงซีเรียเพื่อยับยั้งเหตุนองเลือด ทว่าก็ถูกแรงกดดันเพิ่มขึ้นทุกวัน หลังเหตุประท้วงที่ยืดเยื้อมา 15 เดือนคร่าชีวิตพลเมืองผู้บริสุทธิ์ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 13,500 คน
เมื่อวานนี้(6) ฝ่ายกบฎระบุว่า กองกำลังความมั่นคงของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ได้สังหารหมู่ประชาชนไปอีกกว่า 100 ราย ไม่เว้นกระทั่งเด็กและสตรี ซึ่งรัฐบาลก็ออกมาปฏิเสธทันควันว่าไม่รู้ไม่เห็น ขณะที่สหรัฐฯเรียกร้องให้ อัสซาด ยอมสละอำนาจอย่างสมบูรณ์เสียที
