“เจ๊สด” หน้าแตก! เสียงอ่อนรับเคยแจกใบแดง 2 ใบกรณีปราศรัยใส่ร้าย โบ้ย “มาร์ค” หยิบกรณีธานินทร์เป็นของชุด “สามหนาห้าห่วง” โวยสื่อลงข่าวเคยจี้ “อภิชาต” แจงเรื่องให้ใบแดงการุณ เกือบมองหน้าไม่ติด อ้างไม่เคยพูดแต่มีบางพรรคการเมืองเสี้ยม เผยคดี “เก่ง-การุณ” ฟ้องกลับ “อี้-แทนคุณ” ให้ผู้ว่าฯ กทม.ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือ-ปราศรัยสัญญาว่าจะให้ เตรียมชี้ขาดต้นเดือนหน้า เผยรอให้ “ประพันธ์” กลับจากนอกก่อน
วันนี้ (26 มิ.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวชี้แจงว่า ใน กกต.ชุดนี้เคยมีมติสั่งเพิกถอนเลือกตั้งจากกรณีการปราศรัยใส่ร้ายรวม 2 ครั้ง โดยเป็นมติ กกต.ในปี 2551 หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 50 คือ มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายประสพ บุษราคัม อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน โดยเป็นการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งก่อนการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง และหลังประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายพงษ์ศักดิ์ บุญศล อดีต ส.ส.สกลนคร เขต 3 พรรคพลังประชาชน ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำพิพากษาตามที่ กกต.เสนอ แต่ในส่วนของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า กกต.ชุดนี้เคยสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนั้น ยืนยันว่าไม่เคยมี จากการตรวจสอบพบว่า เป็นมติของ กกต. ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. โดยเป็นมติ กกต.ในปี 2548 สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายธานินทร์ ใจสมุทร อดีต ส.ส.สตูล จากเหตุปราศรัยใส่ร้าย
“ใน กกต.ชุดนี้มีการพิจารณาสั่งแจกใบแดง 2 ครั้ง ซึ่งครั้งที่แจกใบแดงนายประสพ เป็นมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 1 ส่วนตอนที่แจกใบแดงนายพงษ์ศักดิ์นั้นองค์ประชุมมี 4 คน โดยดิฉันไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วยเพราะไปประชุมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งกรณีดังกล่าวก็สะท้อนให้เห็นว่าการที่ กกต. 4 คนประชุมแล้วมีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ โหสกุล ส.ส.เขต 12 กทม.พรรคเพื่อไทยนั้น ทำได้ไม่เป็นปัญหา เพียงแต่ครั้งที่มีมติเพิกถอนสิทธินายพงษ์ศักดิ์ ผลการลงมติของ กกต. เป็น 3 ต่อ 1 แต่ในคราวของนายการุณองค์ประชุม 4 คน ลงมติออกมาเป็น 2 ต่อ 2 ทำให้ประธาน กกต.จำเป็นต้องใช้อำนาจตามมาตรา 8 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งชี้ขาด ถึงได้เสียงข้างมากเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ” นางสดศรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นางสดศรีเคยให้สัมภาษณ์ว่า กกต.ชุดนี้ไม่เคยมีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือให้ใบแดง ส.ส.จากกรณีการปราศรัยใส่ร้ายมาก่อน แต่ครั้งนี้กลับชี้แจงยอมรับว่า กกต.ชุดนี้ให้ใบแดงจากเหตุปราศรัยใส่ร้ายมาแล้วถึง 2 ครั้ง ทั้งนี้นางสดศรียังกล่าวด้วยว่า จากที่ กกต.สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณทำให้ตนเองถูกพูดพาดพิงเยอะ มีทั้งกล่าวหาว่าไปเข้าข้างกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ซึ่งความจริงแล้วทั้งตนเองและ กกต.คนอื่นๆ ต่างก็ทำตามหน้าที่ที่มีอยู่ ไม่ได้จะช่วยใครหรือเป็นพวกใคร แต่กลับมีการเสนอข่าวไม่ถูกต้อง ถึงขนาดระบุว่าตนเองบังคับให้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ออกมาแถลงข่าวชี้แจงเรื่องการให้ใบแดงนายการุณ ทำให้เกิดปัญหาจนนายอภิชาตมาถามตนว่าพูดอะไรถึงท่าน ซึ่งก็บอกไปว่าไม่เคยพูดอะไรถึงท่านเลย มีแต่พรรคการเมืองบางพรรคเท่านั้นที่พูดถึงท่าน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการพิจารณาคำร้องคัดค้านการประกาศผลการเลือกตั้งขณะนี้เหลืออีกเพียง 4 เรื่อง ซึ่ง กกต.จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ประกาศผลผู้สมัครรายนั้นเป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากหากพ้น 1 ปีแล้วถ้าเป็นเรื่องร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้ง กกต.จะไม่สามารถพิจารณาได้อีก โดยระยะเวลา 1 ปีจะครบในวันที่ 29 ก.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ กกต.ประกาศรับรองผล
ทั้งนี้ ในจำนวนนี้มีกรณีที่น่าสนใจ เป็นกรณีที่นายการุณร้องกลับนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 12 กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ว่าปราศรัยใส่ร้าย ที่คาดว่าที่ประชุม กกต.จะมีการพิจารณาในช่วงต้นเดือน ก.ค. เพราะขณะนี้นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้งจะเดินทางไปดูงานต่างประเทศ แม้ กกต. 4 คนจะเป็นองค์ประชุม สามารถประชุมพิจารณามีมติได้ แต่คิดว่าเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง ก็ควรรอให้ กกต.ทั้ง 5 คนอยู่ครบ เนื่องจากไม่อยากให้ประเด็นการเมืองเกิดจาก กกต.ซึ่งหาก กกต.มีมติสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายแทนคุณ ที่แม้เป็นเพียงอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง ก็ต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเช่นเดียวกัน และหากมีการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 12 กทม. นายแทนคุณก็จะไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำร้องที่นายการุณกล่าวหานายแทนคุณ ที่ กกต.จะพิจารณานั้นเป็นกรณีที่นายการุณกล่าวหาว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือนายแทนคุณ โดยมีการปราศรัยหาเสียงสัญญาว่าจะต้องวางศิลาฤกษ์ก่อนพ้นจากตำแหน่ง และในการให้สัมภาษณ์ของนางสดศรีครั้งนี้ นางสดศรีได้นำคำวินิจฉัยของ กกต.ในกรณีของนายประสพ และนายพงษ์ศักดิ์ รวมทั้งข่าวการให้สัมภาษณ์ของตนเอง และนายประพันธ์ ในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ มาติดบอร์ดประกอบด้วย