เลื่อนอ่านฎีกา อดีต กกต.สามหนาฯ จัดการเลือกตั้งมิชอบ!

ศาลเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีต กกต.และพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบ สั่งจัดการเลือกตั้งใหม่โดยไม่เป็นธรรม ไป 13 มิ.ย.นี้ เนื่องจาก “ปริญญา นาคฉัตรีย์” จำเลยที่ 3 ป่วยผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี

ที่ห้องพิจารณา 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (7 พ.ค.) ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หมายเลขดำ อ.1234/2549 หมายเลขแดง อ.2343/2549 ที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ฟ้อง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ 1 พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีต ประธาน กกต. ที่ 2, กับอดีตกรรมการ กกต. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ ที่ 3, นายวีระชัย แนวบุญเนียร ที่ 4 (เสียชีวิตแล้ว), พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ ที่ 5 และ พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา อดีตเลขาธิการ กกต.ที่ 6 ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว. มาตรา 24 และ 42

โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2549 สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 3-5 เม.ย. 2549 เวลากลางวัน ติดต่อกัน จำเลยทั้งหมดได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่และใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่รอบ 2 ใน 38 เขต 15 จังหวัดเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2549 โดยเปิดรับสมัครใหม่ ทั้งที่ไม่มีอำนาจ และอนุญาตให้ผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนลงสมัครข้ามเขตได้ เพื่อช่วยให้ผู้สมัครพรรคไทยรักไทยมีคู่แข่ง และจะได้เลี่ยงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าต้องได้คะแนน 20% ขึ้นไป ดังนั้น การจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเพิ่มเงื่อนไขในลักษณะเช่นนี้ทำให้การเลือกตั้งใหม่มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม พวกจำเลยเป็นบุคคลในองค์กรอิระตามรัฐธรรมนูญที่มีอำนาจมาก แต่กลับมากระทำความผิดเองโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งนี้คดีนี้ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เนื่องจากการกระทำของจำเลยทั้งหกเป็นการกระทำความผิดที่ร้ายแรงปฏิปักษ์และเป็นภัยต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย หากมิได้รับการพิจารณาโดยเร่งด่วนจะส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีงามของประชาชนและสูญเสียงบประมาณเงินของแผ่นดินจำนวนมาก รวมถึงความมั่นคงของประเทศ โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 101, 108, 157 เหตุเกิดที่แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. จำเลยปฏิเสธ

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2549 ว่า จำเลยที่ 2, 3 และ 4 กระทำผิดจริงตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว.ให้จำคุกจำเลยทั้งสามไว้คนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจำเลยทั้งสามเป็นเวลา 10 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 6 ได้ยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง สำหรับ พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ จำเลยที่ 5 ได้ลาออกจาก กกต.ไป นายถาวรโจทก์จึงถอนฟ้อง ต่อมาจำเลยที่ 2, 3 และ 4 ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ต่อมาจำเลยทั้งสามยื่นฎีกา ขอให้ศาลยกฟ้อง

อย่างไรก็ตาม ทนายความของนายปริญญา นาคฉัตรีย์ จำเลยที่ 3 ได้ยื่นคำร้องต่อศาล พร้อมใบรับรองแพทย์ว่า เนื่องจากนายปริญญาได้เข้ารับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมายังนอนรักษาตัวอยู่ ไม่สามารถมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาได้ จึงขอเลื่อนฟังคำพิพากษาไปก่อน ศาลพิจารณาแล้ว กรณีมีเหตุสมควรจึงให้เลื่อนฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เดินทางมาศาลเพียงคนเดียว โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ขณะที่นายวีระชัยนั้นได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2555 ด้วยโรคไตวาย