โฆษก ปชป.เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดแผนรับมือน้ำท่วม หลังนักวิชาการชี้ทิศทางการไหลของน้ำต่างจากปีที่แล้ว เหตุ 6 นิคมกั้นเขื่อน ด้าน “มัลลิกา” เผย อสส.แจงไม่ฟ้อง “โอ๊ค” และพวกกรณีปล่อยเงินกู้ ธ.กรุงไทย เพราะไม่ใช่ ขรก. แนะฟ้องอาญา
วันนี้ (25 มิ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการเสวนาของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมาในหัวข้อ “ปี 55 น้ำท่วมหรือเอาอยู่” ซึ่งมีการระบุว่าน้ำอาจจะท่วมมากกว่าปกติว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นความคืบหน้าของรัฐบาลในการใช้งบประมาณ 3.5 แสนล้านบาทเพื่อใช้รับมือน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างใหม่ หรือการดูแลช่วยเหลือประชาชน
ทั้งนี้ นักวิชาการได้เตือนประชาชนว่าปีนี้ทิศทางการไหลของน้ำจะแตกต่างจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีการสร้างเขื่อนใน 6 นิคมอุตสาหกรรม รวมระยะทาง 100 กิโลเมตร ดังนั้น อยากถามรัฐบาลว่าได้คำนวณสิ่งเหล่านี้ในแผนบริหารจัดการน้ำท่วมหรือไม่ เพื่อหากคำนวณทิศทางการไหลของน้ำเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาก็จะผิดพลาด ซึ้งพื้นที่ที่จะถูกน้ำท่วมส่วนใหญ่จำเป็นพื้นที่ชนบท เพราะจะเป็นการรักษาพื้นที่ไข่แดง พื้นที่เศรษฐกิจและเมือง อยากถามว่ารัฐบาลได้ให้ข้อมูลกับประชาชนหรือหามาตรการดูแลเพียงพอหรือยัง และมีความพร้อมแค่ไหนในการรับมือน้ำท่วมปีนี้
ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการเข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อสอบถามเหตุผลในการไม่ยื่นฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร, นางกาญจนาภา หงษ์เหิน, นายวันชัย หงษ์เหิน และนายมานพ ทิวารี ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 ฐานรับของโจร กรณีการปล่อยกู้งินธนาคารกรุงไทย จำนวน 9 พันล้านบาทว่า ทางอัยการสูงสุดได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่ฟ้องบุคคลทั้งสี่เนื่องจากบุคคลดังกล่าวไม่ใช่ข้าราชการ ดังนั้น ทาง ป.ป.ช.จึงไม่สามารถดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสี่ได้ แต่สามารถฟ้องบุคคลทั้งสี่ในคดีอาญาได้
ดังนั้น ตนจะนำเรื่องนี้มาปรึกษากับฝ่ายกฎหมายของพรรค คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์จะได้ข้อสรุปว่าจะยื่นหรือให้ ป.ป.ช.เป็นผู้นำสำนวนหลักฐานต่างๆ ส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ดำเนินคดีต่อไป หรือจะส่งเรื่องโดยตรงส่งให้ดีเอสไอได้ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป