“บก.ลายจุด” เป่าหูม็อบแดง อำมาตย์ปล้นอำนาจ ปชช. ด้าน “อดิศร” รับต้องการให้สถาบันเป็นเพียงสัญลักษณ์ เรียก “ปรีดี” หักคอ “ป๋า” หนุนเพื่อแม้วใช้เสียงข้างมากลากแก้ รธน. อ้างตุลาการไม่ได้มาจาก ปชช. เชิญ"แม้ว"ซุกขอนแก่นหากกลับไทยไม่รู้จะอยู่ที่ไหน จี้"เหลิม"จับ"มาร์ค-เทือก"เข้าคุก ขณะที่“จตุพร” ข้องใจศาลถอนประกัน เตรียมบุกศาล รธน.ถามตุลาการทั้ง 9 คน ก่อนต่อยอดฟ้องอาญา
วันนี้ (24 มิ.ย.) การชุมนุม “80 ปี ยังไม่มีประชาธิปไตย” ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ปราศรัยว่า เมื่อก่อนอำนาจสูงสุดอยู่ที่คนหนึ่งคน จนปี พ.ศ.2475 เกิดคณะบุคคลเปลี่ยนแปลงแนวความคิดให้อำนาจอยู่คนหนึ่งคนไม่ได้ จึงสร้างระบอบตัวแทนเข้ามา แบ่งปันอำนาจจากกษัตริย์มีเป้าหมายให้อำนาจตกอยู่ที่คนทุกคน ยุค 14 ตุลาคม 2516 คนหนุ่มสาว นักศึกษา ก็ขอแบ่งปันอำนาจจากคนเหล่านั้น มาถึง พฤษภาคม 2535 คนชั้นกลาง ที่มีศักยภาพการผลิตรู้สึกว่าปล่อยให้อำมาตย์ปกครองไม่ได้ มาถึงวันนี้เป็นขบวนการสุดท้ายอภิวัฒน์ประชาธิปไตย คือคนรากหญ้า เมื่อเขาลุกขึ้นยืน คือละครฉากสุดท้าย ในขบวนการอภิวัฒน์ประชาธิปไตยที่ให้ทุกคนเป็นเจ้าของอำนาจ
“ขอสื่อสารไปยังอำมาตย์ทุกตัวตนที่ยังดำรงอยู่ในสังคมไทยและพยายามดึงอำนาจออกจากมือประชาชน วิธีการนั้นไม่ใช่จะนำไปสู่ชัยชนะ แต่จะเป็นการฉีกหน้าตัวเองว่าเป็นปิศาจ ขโมยอำนาจอธิปไตย ราษฎรทั้งหลายจงเชื่อเถอะว่าประเทศนี้เป็นของราษฎรทุกคน” นายสมบัติ กล่าว
ด้านนายอดิศร เพียงเกษ แกนนำ นปช. หรือ “สหายศรชัย” ยุค 6 ตุลาคม 2519 ปราศรัยอย่างดุเดือดว่า อำนาจอธิปไตยที่เราเลือกตั้งมาให้ ส.ส.หรือ ส.ว. ไปทำงานในสภาฯ หรืออำนาจด้านบริหาร ที่คิดว่าเป็นตัวแทนของเรา แต่มันยังมีอำนาจเหนือกว่านั้นคอยบริหารอยู่ ถือเป็นสิ่งกีดขวางความเจริญในบ้านเมือง อำนาจเป็นของใครไม่รู้ เป็นของคนที่มีนามสกุลประชาธิปไตยใช่หรือไม่ เรามาคุยกันเพื่อไม่ต้องการให้ใครมาอยู่เหนือรัฐสภาฯ และฝ่ายบริหาร
“ผมใฝ่ฝัน ต้องการให้สถาบันของเราเป็นสัญลักษณ์ ใฝ่ฝันให้ประเทศไทยเป็นเหมือนสหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น กัมพูชา ใครก็ทำหน้าที่ของใครดิ อย่ามาเสือก”นายอดิศร กล่าวและว่า ฝ่ายตุลาการกำลังล่าเมืองขึ้นมาตีฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ก็ยังให้กำลังใจพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าศาลจะตีความอย่างไร เราชุมนุม 80 ปีทำไม ถ้าฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ต่อสู้แทนประชาชน ตุลาการไม่ได้มาจากประชาชนเลย มาจากไหนก็ไม่รู้ คณะราษฎรได้ยินไหม ที่ท่านเสียสละมา 80 ปี แต่ประชาธิปไตยยังไปไม่ถึงไหน ท่านปรีดีอยู่ไหน กลับมาหักคอไอ้บ้านสี่เสา พระยาพหลพลพยุหเสนาอยู่ไหนกลับมาหักคอ ... อีเปรม .... เถอะครับ อย่างไรก็ดีประชาธิปไตยคือเสียงข้างมาก พวกข้างน้อยบีบคออย่าไปสนใจมัน จะไม่แก้รัฐธรรมนูญไม่ต้องสนใจมัน เราต้องใช้เสียงข้างมากให้เป็นประโยชน์” นายอดิศร กล่าว
นายอดิศร กล่าวว่า หากทักษิณ จะกลับบ้านใครจะห้าม ไม่รู้อยู่ที่ไหนไปอยู่ขอนแก่นก็ได้ ใครอยากให้ทักษิณกลับ ส่งเสียงดังๆ สิ เราต่อสู้ เสียชีวิตเลือดเนื้อ ไม่รู้กี่ศพ ทุกอย่างอนู่ในจิตวิญญาณของเรา การแก้แค้นไม่ใช่เอาปืนมายิง ต้องการเห็นไอ้สุเทพ นายอภิสิทธิ์เข้าคุก ถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯทำไมไม่จับฆาตกร ถ้าไม่จับจะเอาเสื้อแดงไปจับ 80 ปีประชาธิปไตยแต่เรายังไม่มีประชาธิปไตย
ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า การปราศรัยบนเวทีในวันนี้ตนจะพูดเรื่องการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้ยื่นถอนประกันตนจากคดีก่อการร้าย ซึ่งตนพบว่าเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2553 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน เคยแจ้งความดำเนินคดีกับตนในคดีหมิ่นประมาท ซึ่งหมายความว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นคู่กรณีกับตนโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2553 ทำให้การขอเพิกถอนการประกันตัวตนครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งตนยังไม่ได้ปฏิบัติผิดเงื่อนไขการประกันตัวในคดีก่อการร้ายแต่อย่างใด ดังนั้นในวันอังคารที่ 26 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือสอบถามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ว่าเมื่อรู้ว่าเป็นคู่กรณีกับตนตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.53 จึงใช้อำนาจใดขอเพิกถอนสิทธิการประกันตัวตน เป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และมีมาตรฐานหรือไม่
นอกจากนี้นายจตุพรยังกล่าวด้วยว่า นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้บอกว่าไม่ได้มอบอำนาจให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ไปดำเนินการจึงเกิดปัญหาว่าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้อำนาจใด ซึ่งตนอยากพบกับผู้รับมอบอำนาจ รวมถึงตัวนายวสันต์ ด้วยโดยตนไปเพียงเพื่อสอบถามเท่านั้นจะไม่มีการคุกคามใดๆ อย่างไรก็ตามหลังจากได้สอบถามข้อสงสัยจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ตนจึงจะพิจารณาวันที่จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญาต่อไป
นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับงานชุมนุมในวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไม่มีการโฟนอินเข้ามายังเวทีปราศรัย เนื่องจากอยู่ระหว่างการเดินทางจึงไม่สะดวก ดังนั้นกิจกรรมบนเวทีวันนี้จะเป็นของภาคประชาชนเท่านั้น