ASTVผู้จัดการ - ที่ปรึกษา ปชป. ตอก “ระบอบแม้ว” ซื้อพรรคการเมือง-วุฒิสมาชิก ทำบ้านเมืองวุ่น เตือนหากไม่หยุดใส่ร้ายศาลเพียงเพราะตัดสินไม่ถูกใจ การเมืองไทยจะไม่มีทางเป็น ปชต.ที่แท้จริง คิดบวกบอกประเทศยังไม่แย่ เพราะยังมีการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้าน “อภิสิทธิ์” แนะทางเลือกประเทศหากไม่รอล่มสลาย ต้องสลายทุกขั้วและรัฐบาลต้องบริหารเพื่อส่วนรวม
ค่ำวานนี้ (24 มิ.ย.) ที่โรงละครเอ็มเธียเตอร์ ถ.เพชรบุรี ในวาระครบรอบ 80 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย. 2475 พรรคประชาธิปัตย์ และสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูสกาย ชาแนล จัดงานทอล์กโชว์การกุศล “2575 เจาะเวลาสู่อนาคต” ขึ้นไทม์แมชชีนสำรวจอดีตการเมืองไทย 2475 สู่อนาคต 2575 โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายบริจาคให้สภากาชาดไทย
สำหรับไฮไลต์ของงานเป็นการทอล์กโชว์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีการจำหน่ายบัตรที่นั่งในราคาที่นั่งละ 1,000 บาท จำนวน 800 ที่นั่ง ทั้งนี้ผู้เข้าฟังส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับของพรรคประชาธิปัตย์
ในช่วงแรกของการทอล์กโชว์บนเวที นายชวนกล่าวถึงภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 และว่าประชาธิปไตยไทยในรอบ 80 ปีที่ผ่านมา อุปสรรคอย่างหนึ่งมาจากทหารยึดอำนาจทั้งที่ทำสำเร็จและไม่สำเร็จ ต่อจากนั้นการเมืองไทยได้เข้าสู่ยุคธุรกิจการเมือง ระบอบทักษิณแทรกแซงองค์กร ซื้อพรรคการเมือง วุฒิสมาชิก
ปัจจุบันนักการเมืองข่มขู่คุกคามศาล ถือเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดในรอบ 80 ปีที่ผ่านมา จนเป็นสาเหตุให้เกิดความวุ่นวาย บ้านเมืองเกิดปัญหา ในอนาคตหากไม่แก้ปัญหานี้ ประชาธิปไตยก็จะเดินไปอย่างไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม ในทางการเมืองมีองค์กรกลางเพื่อพิจารณาให้ความเป็นธรรม คือศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญกลับถูกโจมตีจากฝ่ายที่เสียผลประโยชน์ พยายามให้ร้ายและคุกคามศาลเพียงเพราะศาลตัดสินไม่ถูกใจ
คนบางกลุ่มมองประชาธิปไตยเป็นธุรกิจการเมือง มองแต่ผลกำไร ทำทุกวิธีทางให้อีกฝ่ายต้องตายให้ได้ แทรกแซงทุกองค์กรไม่เว้นแม้แต่สื่อ เห็นได้จากการพยายามแทรกแซงการลงโฆษณาของสื่อที่เห็นต่างกับรัฐบาล
นายชวนกล่าวอีกว่า ไม่อยากให้คนไทยในประเทศคิดว่าประเทศเราแย่ เพราะประเทศไทยยังมีการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งก่อนหน้านี้เคยพูดไว้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องไม่บริหารประเทศแบบบริษัท เพราะจะทำให้เป็นปัญหา ขณะที่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ที่ผ่านมา เกิดขึ้นเพราะมีการปฏิบัตินอกกรอบรัฐธรรมนูญ เพราะคนส่วนใหญ่มองว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีระบอบประชาธิปไตย ผู้ใช้เองยังไม่ปฏิบัติตาม ขณะเดียวกัน การทำงานทุกอาชีพต้องเป็นมืออาชีพ นักการเมืองต้องศึกษาปัญหาในประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาแบบมืออาชีพด้วย
ก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะขึ้นทอล์กโชว์ในหัวข้อ “2575 เจาะเวลาสู่อนาคต” โดยระบุว่า ในทัศนะของตนอนาคตของประเทศไทยอาจมีทางเลือกอยู่ 3 ทาง หนึ่ง คือ ทางเลือกทางเลือกที่นำไปสู่ความขัดแย้งลุกลามบานปลายจนถึงขั้นเกิดสงครามกลางเมือง, สอง คือ การใช้นโยบายประชานิยมอย่างพร่ำเพรื่อ อันจะนำไปสู่การล่มสลายของระบอบเศรษฐกิจ และสาม คือ การก้าวข้ามวิกฤตสู่ฟ้าวันใหม่ทางประชาธิปไตยไทย อย่างไรก็ตาม ทางเลือกนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนในสังคมไทย สลายขั้วและมุ่งไปสู่ประโยชน์ของประเทศโดยส่วนรวม ขณะที่รัฐบาลก็ต้องบริหารเพื่อส่วนรวม มิใช่เพื่อคนใดคนหนึ่ง