ผบ.ทบ.เผย ส่ง รอง เสธ.ทบ.พบ รมว.ศธ.ถกร่วมแก้อาชีวะตีกัน ชี้แดงชุมนุมได้ก็ทำไป ขออย่าสร้างความรุนแรง ทำชาติเสียหาย ยันดูแลทหารสู้คดี 6 ศพวัดปทุมฯ ไม่ปล่อยตามยถากรรม ซัดตำรวจแถลงคำไต่สวนไม่เหมาะสมจึงต้องส่งคนแจงบ้าง โยนศาลตัดสิน
วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กองทัพบกเข้าพบ รมว.ศึกษาธิการว่า วันนี้ตนได้ให้ พล.ท.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รองเสนาธิการทหารบก เข้าพบนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อหารือถึงปัญหานักเรียนอาชีวะตีกันว่าจะสามารถแก้ปัญหาร่วมกันได้อย่างไร ซึ่งทราบว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว ทั้งนี้ ส่วนของกองทัพบกยินดีให้ความสนับสนุนทุกประการ โดยวิธีการนำเข้ามาอบรมในค่ายทหารเพื่อละลายพฤติกรรมต่างๆ รวมทั้งอบรมให้เข้าใจว่า จะต้องอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างไร ทั้งนี้ คิดว่านักเรียนที่มีปัญหาเหล่านี้เป็นนักเรียนกลุ่มน้อย ไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนไม่มาก แต่หากเราไม่ทำความเข้าใจ และไม่แก้ไขก็จะมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นในอนาคต และเขาก็จะอยู่ในสังคมไม่ได้ ท้ายสุดก็จะเป็นอันตรายต่อคนอื่นอย่างที่มีตัวอย่างให้เห็น
ผู้บัญชาการทหารบกยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมชุมนุมเพื่อเรียกเสียงมวลชนกลับมา และประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านรัฐประหารเต็มรูปแบบในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ว่า เป็นการเคลื่อนไหวตามประชาธิปไตย ซึ่งชุมนุมได้ก็ชุมนุมกันไป ทุกคนก็ต้องการประชาธิปไตย ดังนั้น ตามประชาธิปไตยก็บอกชุมนุมได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ขอร้องว่า อย่าทำให้เกิดความรุนแรงด้วยการบาดเจ็บสูญเสีย และทำความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง ซึ่งตนขอร้องและรู้สึกเป็นห่วงทุกคนเช่นกัน แต่ห่วงว่าจะทำอะไรก็ต้องขึ้นอยู่กับอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ และวันนี้ ทหารก็ยังไม่ได้รับคำสั่งการใดๆ ให้มีการเตรียมรับสถานการณ์ คงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางทหารก็ทำหน้าที่ของเราไป แต่เมื่อใดที่มีการสั่งการ หรือร้องขอมาเราก็จะทำตามคำสั่ง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา"
ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีการพิจารณาไต่สวนพยานจากคดีการเสียชีวิต 6 ศพที่วัดปทุมวนาราม โดยหนึ่งในพยานที่เป็นตำรวจเชื่อว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารว่า เป็นเรื่องของการสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม สิ่งสำคัญต้องเข้าใจว่า กองทัพบกเป็นกองทัพที่ใหญ่ มีคนหลายแสนคน ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ การปกครองคนและการให้ความดูแลปกป้องให้ความเป็นธรรมผู้ใต้บังคับบัญชา ในการกระทำใดๆ ก็ตามที่เป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งไม่ใช่หน้าที่เฉพาะของ ผบ.ทบ. แต่เป็นหน้าที่ของระบบที่จะต้องปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาในการทำหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมา เราก็มีการติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และเราก็ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนที่มีปัญหา หรือคนที่ถูกเรียกตัวไปไต่สวนต่างๆ เราก็ดูแล ไม่ใช่เราจะปล่อยให้เผชิญชะตากรรม ผู้บังคับบัญชาต้องดูแล และตนดูแลมาตลอด
“จะถูกจะผิดก็ว่ากันในกระบวนการยุติธรรม แต่การที่นำออกมาพูดจาข้างนอก หรือแสดงความคิดเห็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมคิดว่าไม่เหมาะสม เมื่อไม่เหมาะสมกองทัพก็ต้องออกมาชี้แจง ประเด็นสำคัญ คือ ถ้าเป็นเรื่องของกระบวนการไต่สวน หรือการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมใดๆ ก็ตาม คิดว่าควรจะอยู่ในชั้นความลับ ไม่ใช่ออกมาพูดให้ออกมาข้างนอก ถ้าพูดข้างนอกเราก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ใช่เป็นการตอบโต้ หรือกล่าวร้ายอะไรทั้งสิ้น ต่างคนต่างมองไปคนละมุมก็ว่าไป แล้วปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมเขาว่าไปใครจะผิดจะถูก ถ้าไม่มีการพูดจาออกมาข้างนอกเราก็คงไม่อยากจะพูดออกไป ไม่ควรเอาออมาแพร่ในที่สาธารณะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว