ผบ.ทบ.ควง รองนายกฯ ลงปัตตานี กวดขันเจ้าหน้าที่ตามยุทธศาสตร์ 29 ข้อ แนะอย่ามองทหารใช้แต่กำลังปราบปราม ยันเน้นกฎหมายให้โอกาสกลับตัว ซัดพวกสังหารเด็กจิตใจไม่ดี เผยแม่ทัพภาค 4 ส่งกำลังช่วยย้ายพลพ้นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมแล้ว พร้อมส่งส่วนกลางสนับสนุน
วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และนายทหารระดับสูงของกองทัพบก เดินทางลงพื้นที่จังหวัดปัตตานีเพื่อตรวจเยี่ยมหน่วยและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเขตพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 โดยจะรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และผลการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมให้นโยบายและชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การลงพื้นที่เพื่อไปกวดขันเจ้าหน้าที่ตามยุทธศาสตร์ 29 ข้อ ซึ่งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือและจัดทำแผนให้สอดคล้องกันเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและการแก้ไขปัญหา อย่ามองว่าทหารใช้กำลังปราบปรามอย่างเดียว เพราะเราจะต้องแก้ไขปัญหาในทุกมิติ เนื่องจากทุกคนเป็นคนไทยต้องดำเนินการบังคับใช้ตามข้อกฎหมาย และให้ผู้ที่เคยกระทำความผิดได้มีโอกาสกลับตัวตามมาตรา 21 ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้มอบตัวและเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ต้องมีการพัฒนาทางด้านการศึกษา และชีวิตความเป็นอยู่ในพื้นที่เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน โดยกองทัพได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กระทรวง และหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่ขณะนี้มีความก้าวหน้าไปตามลำดับ พร้อมกันนี้ยังกล่าวประณามถึงผู้ที่ก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่ก่อเหตุกับนักเรียน โรงเรียน ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ คนพวกนี้จิตใจไม่ดี น่าจะคิดใหม่ได้แล้ว
ผู้บัญชาการทหารบกยังให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ขณะนี้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ และมีพื้นที่อยู่ในขั้นเสี่ยงภัยอยู่ 8 จังหวัด นับตั้งแต่มีมรสุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้ให้หน่วยในพื้นที่เข้าไปดูแลในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนให้มีการอพยพหากเกิดสถานการณ์รุนแรง และในปัจจุบันที่เดือนร้อนมากที่สุดคือกองทัพภาคที่ 4 อย่างไรก็ตาม พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 จัดกำลังเข้าไปช่วยเหลือในขั้นต้นในการเคลื่อนย้ายกำลังพลออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย จากนั้นคือการทำอย่างในการสัญจรไปมาได้สะดวกขึ้น อย่างไรก็ตามกองทัพบกได้เตรียมกำลังพลส่วนกลางสนับสนุนในภาพรวมด้วยในกรณีที่กองทัพภาคที่ 4 มีกำลังไม่เพียงพอ ทั้งนี้เราต้องติดตามสถานการณ์จากการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาถ้าฝนตกมา และถี่ขึ้นและขยายวงกว้างมากปริมาณน้ำก็จะมากขึ้นก็ต้องระมัดระวังมากขึ้นขอให้ประชาชนรับฟังการแจ้งเตือนเพื่อเตรียมความพร้อม