“อภิสิทธิ์” เตรียมส่งเอกสารสลายม็อบแดงเพิ่มให้ คอป. ท้า “ปลอด” โชว์หลักฐานมะกันขอใช้อู่ตะเภา

หน.ปชป.เพิ่มเติมเหตุการณ์สลายม็อบแดงปี 53 คาดรัฐบาลไม่ต่ออายุให้ คอป.หลังสิ้นสภาพ 16 ก.ค.นี้ เผยเพิ่งได้ข่าวตั้งรัฐบาลเทพประทาน 2 จากปาก “ก่อแก้ว” เหน็บไม่รู้ต้องไปสาบานอีกหรือไม่ ย้ำกรณีอู่ตะเภาต้องถูกกฎหมาย โปร่งใส ตรงไปตรงมา ท้า “ปลอด” กางรายละเอียด ไม่กลัวคำขู่ร้อง ป.ป.ช. ทิ้งท้ายอวยพร “ปู” มีกำลังทำงานเพื่อประชาชน

วันนี้ (21 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเข้าชี้แจงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของ นปช.ในปี 2553 ต่อสำนักงานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงแห่งชาติ (คอป.) เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ตนจะส่งเอกสารเพิ่มเติมกลับไป และจะให้ข้อมูลให้มากที่สุด เพราะเคยไปให้ถ้อยคำมาแล้ว 4 ครั้ง ทั้งนี้ ทาง คอป.ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าต้องการข้อมูลส่วนใดเพิ่มเติม แต่คิดว่าข้อมูลไหนที่จะเป็นประโยชน์ก็จะส่งไปให้ ความจริงตนได้แนะนำไปว่าหน่วยงานของรัฐ เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ซึ่งเคยมีเอกสารมากมาย ก็ควรส่งเอกสารทั้งหมดไปให้ทาง คอป.ด้วย

ส่วนที่อายุการทำงานของ คอป.จะสิ้นสุดในวันที่ 16 ก.ค.นี้ เข้าใจว่าคงไม่มีแนวคิดที่จะต่ออายุ เพราะกรรมการก็ยืนยันว่าจะสรุปงานของ คอป. และไม่เคยได้ยินรัฐบาลมีแนวคิดที่จะต่ออายุให้ คงเป็นการรายงานฉบับสุดท้ายประมาณเดือน ก.ค.ซึ่งจากการพูดคุยได้พูดแต่เรื่องของแนวคิดเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความขัดแย้งในอนาคต ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องเวทีสานเสวนา และมีการเน้นเรื่องประเด็นความยุติธรรมว่า เป็นหัวใจของการแก้ปัญหาความขัดแย้ง โดยทาง คอป.ระบุว่ามีการทำงาน 4 ด้าน คือ 1. ค้นหาความจริง 2. ข้อเสนอแนะเรื่อการเยียวยา 3. มีการวิจัยถึงรากเหง้าของปัญหาต่างๆ และ 4. แนวคิดที่จะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก

ส่วนกรณีที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ออกมาระบุว่าขณะนี้มีความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย จับมือจัดตั้งรัฐบาลเทพประทาน 2 นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้ยินจากนายก่อแก้วคนเดียว ซึ่งเมื่อถามย้ำว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ นายอภสิทธิ์ย้อนถามว่าไม่รู้ว่าเรื่องนี้ต้องไปสาบานกันอีกหรือเปล่า

ส่วนกรณีการขอใช้สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ของสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีการนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ครม.ว่า โครงการลักษณะนี้จำเป็นต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม และทำให้เกิดความโปร่งใสกับทุกฝ่าย เพื่อลดปัญหาความหวาดระแวงจากข้อครหาทั้งหลาย เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจว่าทุกอย่างได้ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ดังนั้นรัฐบาลต้องตระหนักให้มาก ซึ่งหากรัฐบาลเริ่มเข้าใจถึงความละเอียดอ่อนของเรื่องแบบนี้ แล้วจะทำอะไรก็เดินหน้าทำให้เกิดความโปร่งใสก็จะเป็นเรื่องที่ดี และโดยหลักการแล้วการจะอนุมัติ หรือการที่ไทยจะไปร่วมมือกับประเทศอื่น ควรต้องมองหรือไม่ว่าอีกประเทศเขาจะคิดอย่างไร เพราะเรามีประเด็นที่เป็นความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ทางด้านความมั่นคง การต่างประเทศ ก็ทำอย่างรอบคอบ รอบด้าน แล้วก็ให้เกิดความสมดุลดีที่สุด

เมื่อถามว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ระบุว่าสิ่งที่รัฐบาลนี้กำลังทำต่อเนื่องจากรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งเคยให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสดา ลงนามกับนาซาของสหรัฐฯ เพื่อใช้พื้นที่ในประเทศไทยมาก่อน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่านายปลอดประสพกำลังพูดเรื่องอะไร แต่ว่าประเด็นที่สำคัญก็คือ ขณะนี้เมื่อมันมีการขอที่จะใช้พื้นที่ตรงนี้ แล้วก็มาในสถานการณ์ซึ่งมีการวิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาการเมืองระหว่างประเทศในภูมิภาค จึงไม่เข้าใจว่าแทนที่รัฐบาลจะให้รายละเอียดต่างๆ กลับกลายเป็นพยายามที่จะไปหยิบยกประเด็นอื่นขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมือง รัฐบาลไหน

“เรากำลังจะพูดถึงว่าอะไรที่จะเป็นการวางแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับประเทศในภาพรวม ทำไมคุณปลอดประสพไม่ไปให้ความสำคัญกับตรงนั้น แต่ไปคิดว่ามีปัญหาและมีการละเมิดอะไรจริง ก็ควรจะไปร้องต่อ ป.ป.ช.ได้ เพราะเวลานี้สังคมต้องการความชัดเจน สังคมต้องการความโปร่งใส ทำไมรัฐบาลให้ไม่ได้ในรายละเอียด และเรื่องนี้มันก็จะชัดเจนว่าจะต้องเข้าสภาตามมาตรา 190 วงเล็บ 2 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ว่าถ้าบอกว่าเรื่องไม่มีอะไร แต่ก็ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ก็เป็นเรื่องแปลก เพราะจะส่งผลกระทบในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ แล้วก็หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องไปทำตรงนี้” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า รัฐบาลต้องทำความเข้าใจกับสหรัฐฯในการอนุญาตให้ใช้พื้นที่อู่ตะเภา ล่าช้า ในขณะที่ ผบ.ทบ.ของจีน จะมาพบกับรัฐบาลไทย หากเป็นเช่นนี้ ไทยจะตกอยู่ในสภาวะเช่นใด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทำไมรัฐบาล แทนที่จะทำเรื่องง่ายๆ ให้เป็นเรื่องยาก ก็ทำทุกอย่างให้มันตรงไปตรงมาว่า เรื่องจริงมันคืออะไร ก็ตอบคำถามตรงนี้ แล้วทุกอย่างมันก็จะคลี่คลายได้ว่ามันควรจะทำอะไรอย่างไร สังคม ทุกฝ่าย ก็ต้องการที่จะให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่เรามีอยู่แล้ว แต่จะทำอะไรนั้นก็ต้องมีความชัดเจนแล้วก็มีความรอบคอบ มีความโปร่งใส

นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ตรงกับวันที่ 21 มิ.ย.ว่า “ในโอกาสวันเกิด ก็ขอให้นายกรัฐมนตรีมีกำลังในการที่จะทำงานเพื่อประชาชน ทำสิ่งดีๆ ให้กับประชาชนครับ”