เครือข่ายก๊กแดงร้องผู้ตรวจการฯ ตรวจสอบจริยธรรม ส.ส.ปชป.ก่อความวุ่นวายในการประชุมสภา
วันนี้ (20 มิ.ย.) นายชัยนรินทร์ กุหลาบอ่ำ ตัวแทนภาคประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง และนางสุดสงวน สุธีสร นักวิชาการเสื้อแดง พร้อมคณะจำนวน 20 คนได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายปรีดา เวทยาวงศ์ ผอ.สำนักกฎหมาย สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากเหตุการณ์ความวุ่นวายในรัฐสภา
นายชัยนรินทร์กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ได้เกิดเหตุการณ์หลายครั้ง ทั้งกรณี น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ลากเก้าอี้ประธานและรองประธานสภาฯ ลงจากบัลลังก์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขว้างปาสิ่งของใส่ประธานสภาฯ อีกทั้งยังมีเหตุการณ์ที่นายธานี เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่กำลังบันทึกภาพ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ปาของใส่ประธานสภาฯ จึงวิ่งเข้าไปใช้มือบีบคอนายจิรายุ ทางกลุ่มจึงเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ขัดหลักจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงเดินทางมายื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อดำเนินการตรวจสอบ เอาผิดไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยหรือทวีความรุนแรงขึ้นอีก
นอกจากนี้ ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาบทบาทของผู้นำหรือหัวหน้าพรรคที่ไม่ระมัดระวังเตือนสมาชิกผู้กระทำการไม่เหมาะสม เพราะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองควรปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของจริยธรรม เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน
ด้าน นายปรีดากล่าวว่า เบื้องต้นจะรับเรื่องไว้ก่อน เพื่อพิจารณาถึงขอบเขตอำนาจหน้าที่ว่าอยู่ในอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ แต่ขณะนี้ทราบว่าเรื่องนี้ได้มีผู้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรแล้วด้วย ดังนั้น ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะประสานไปยังคณะกรรมการจริยธรรม สภาฯ อีกครั้งว่าหลักประมวลจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรได้กำหนดข้อเท็จจริงถึงกรณีดังกล่าวไว้อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ อำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจเพียงชี้ว่ามีการฝ่าฝืนข้อบังคับจริงหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าผิดจริงก็จะส่งเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณากำหนดบทลงโทษต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังยื่นหนังสือต่อผู้ตรวการแผ่นดินแล้ว ทางกลุ่มจะเดินทางไปยื่นหนังสือที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเรียกร้องให้ปลดปล่อยนักโทษทางการเมือง รวมถึงนักโทษที่ถูกดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จำนวน 53 คนด้วย