“เด็จพี่” ว่างจัด! ท้า “มาร์ค-เทือก” สาบานวัดพระแก้วพรุ่งนี้ ชี้เดินหน้ายื่นถอนประกัน “อำมาตย์เต้น-ไอ้ตู่-ท่านเจ๋ง” แค่เกมการเมือง จวกอย่ากดดันศาล หยันประชาธิปัตย์ยื่นสอบโครงการตัวเอง เชื่อมะกันใช้อู่ตะเภาไม่ขัด ม.190 ด้าน “หมวดเจี๊ยบ” เย้ยฝ่ายค้านเดินเกมสกปรกไม่ได้ผล เล็งเปิดปราศรัยเพิ่มวงเวียนใหญ่ เสาชิงช้า
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอท้าทายให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้ไปสาบานที่วัดพระแก้วในวันพรุ่งนี้ เวลา 9 โมงเช้า ว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่ทาบทามแต่อย่างใด ซึ่งทั้งรัฐบาลและนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึง นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่เป็นจริงและเป็นคำพูดที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ยังระบุว่า การที่ทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นถอนประกันตัวนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และนายยศวริศ ชูกล่อม เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีกระทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลอาญานั้น เป็นเพียงเกมการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตนอยากให้เรื่องดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และไม่กดดันศาล
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นตรวจสอบรัฐบาลกรณีจะอนุญาตให้องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริการ หรือนาซา ใช้สนามบินอู่ตะเภาสำรวจการก่อตัวของเมฆว่า กรณีดังกล่าวนั้นได้เริ่มต้นมาจากสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ที่นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ ได้มีการเจรจากับนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศ และนายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติแล้ว แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับมาตรวจสอบโครงการที่ได้เริ่มต้นไว้เอง ซึ่งฝ่ายกฎหมายของพรรคเชื่อว่า การนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (19 มิถุนายน) จะไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190
ทางด้าน ร.ท.(หญิง) สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์การเมือง หลังการปิดสมัยประชุมสภา พรรคเพื่อไทยได้มอบนโยบายให้ ส.ส.ทั่วประเทศลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และช่วยขับเคลื่อนนโยบายให้เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด นอกจากนี้ พรรคต้องการให้ ส.ส.เพิ่มการสื่อสารกับประชาชน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ จะใช้วิธีสกปรกเพื่อโจมตีรัฐบาล แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะประชาชนเห็นความทุ่มเทในการแก้ปัญหาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงยังให้การสนับสนุน เห็นได้จากผลโพลต่างๆ ที่ประชาชนลงความเห็นว่าพอใจการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการแก้ปัญหายาเสพติดที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้พรรคประชาธิปัตย์หันมาแต่งเรื่องยุแหย่ให้เกิดความแตกแยกระหว่างพรรคเพื่อไทยกับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง
ร.ท.(หญิง) สุณิสากล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยจึงต้องเดินหน้า ใช้ความจริงเข้าต่อสู้กับความเท็จของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ผ่านมาการปราศรัยเปิดโปงคำโกหกของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เขตมีนบุรี ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน หลังจากนี้พรรคเพื่อไทยจะจัดเวทีปราศรัยใหญ่ อีก 2 จุด ใน กทม.คือ ที่วงเวียนใหญ่ และเสาชิงช้า ทั้งนี้ พื้นที่ฝั่งธนฯ หรือโซนกรุงธนบุรี จะมีโครงการนำร่องเพื่อเป็นโมเดลสำหรับโซนอื่นๆ อีก 18 โซน โดยคณะกรรมการบริหารโซนได้จัดทำปฏิญญากรุงธนบุรี เพื่อประกาศสงครามกับยาเสพติดในพื้นที่ฝั่งธนฯ และเพื่อตั้งโรงเรียนการเมืองในรูปแบบเวทีชาวบ้าน ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นช่องทางสื่อสารกับประชาชนแล้วยังจะเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะการขจัดยาเสพติดให้หมดไปจากฝั่งธนฯ และการป้องกันปัญหาน้ำท่วมแบบถาวรและยั่งยืน ซึ่งจะใช้ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นศูนย์ประสานงานของโซนกรุงธนบุรี ซึ่งจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ในวันเดียวกับการเปิดปราศรัยใหญ่ที่วงเวียนใหญ่ ซึ่งจะมีขึ้นเร็วๆ นี้