โฆษกเพื่อไทยจี้ หน.ปชป.คืนรถกันกระสุน อ้างไม่จำเป็นต้องมีรถถึง 2 คัน แถม ศรภ.ชี้แจงคลุมเครือ ส่อยักยอกของหลวง โวยทำไมไม่ซื้อเอง ทั้งๆ ที่ตัวเองมีชาติตระกูล ถ้ากลัวไม่ปลอดภัย ก็ขอตำรวจดูแล ท้าอยากฟ้องก็ฟ้อง อ้างเป็นตัวแทนประชาชนตรวจสอบ
วันนี้ (17 มิ.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ออกมาชี้แจงว่า รถยนต์กันกระสุนหุ้มเกราะ แบบแวนชนิด 2 ตอน 3 ประตู ยี่ห้อ แลนจ์ โรเวอร์ รุ่น Range Rover ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ขอใช้ตั้งแต่ปี 2552 ว่า นายอภิสิทธิ์ ทำเรื่องขอยืมรถดังกล่าวตั้งแต่ปี 2552 ขณะที่เป็นนายกฯ และหลังเลือกตั้ง ส.ส.เสร็จก็ยืมต่อ แต่ตนอยากถามว่าในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งนั้น ได้มีการยืมใช้รถดังกล่าวต่อหรือไม่ เพราะนายอภิสิทธิ์ ชี้แจงไม่ชัดเจน และการชี้แจงของ ศรภ.ก็คลุมเครือ ซึ่งน่าจะเป็นการยักยอกของหลวง รวมถึงหลังจากที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.เสร็จ ก็มีการทำเรื่องของยืมรถต่อในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ตนแปลกใจว่า คนที่มีจริยธรรมทางการเมืองอย่างนายอภิสิทธิ์ ทำไมใช้รถถึง 2 คัน ทั้งรถผู้นำฝ่ายค้านที่ทางสภาจัดให้ 1 คัน และใช้รถหุ้มเกราะกันกระสุนอีก 1 คัน
“ผมถามว่า นายอภิสิทธิ์ จะเอารถไปทำอะไรหนักหนาถึง 2 คัน หาก ส.ส.ในสภา เรียกร้องขอแบบนายอภิสิทธิ์บ้าง จะทำอย่างไร ทั้งนี้ ศรภ.ต้องชี้แจงว่า การใช้งบการบำรุงรักษาอยู่ที่หน่วยงาน จะเป็นสำนักนายกฯ หรือสภาเป็นผู้ทำเรื่องขอ เรื่องนี้ทำให้สังคมมองว่า นายอภิสิทธิ์ มีความจำเป็นต้องใช้รถกันกระสุนอีกหรือไม่ ทำไมไม่ใช้รถกันกระสุนของตัวเอง เพราะเป็นนักการเมืองที่มีฐานะ มีชาติตระกูล ผมอยากเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ ขอให้คืนรถกันกระสุน เพราะถือว่าไม่เหมาะสม หากนายอภิสิทธ์ เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ไม่มีปัญหา ไม่เช่นนั้นคนจะครหาว่าขอรถมาใช้ โดยภาระค่าใช้จ่าย คือ สภา คนที่แบกรับภาษีคือ ประชาชนที่ต้องจ่ายให้ ผมเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ คืนรถ และมอบให้ ศรภ.ไปใช้ภารกิจอื่นดีกว่า หากกลัวว่า ตนเองไม่ปลอดภัยก็ขอกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแล หรือนำรถของตนเองไปติดกันกระสุน หากจะฟ้องผม ผมก็ขอท้าว่าอยากฟ้องก็ฟ้อง เพราะผมทำหน้าที่ ส.ส.ที่เป็นตัวแทนประชาชนตรวจสอบอย่างสุจริต” นายพร้อมพงศ์ กล่าว