“ศรภ.” เผยรถกันกระสุนจัดซื้อสมัย “สุเทพ” คุมมั่นคง 20 คัน “ยิ่งลักษณ์” ขอเบิก 2 “เฉลิม-ยุทธศักดิ์-ประยุทธ์-อิทธพร” ขอคนละ 1 พบ “กำธร” ยังไม่คืนแม้พ้น ผบ.ทร.แล้ว ขณะ “อภิสิทธิ์” เบิกรอบ 2 ฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ไร้ระยะเวลาส่งคืน
วันนี้ (15 มิ.ย.) มีรายงานจากศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ว่า จากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้นำรถกันกระสุนหุ้มเกราะไปใช้จนเกิดยางแตก ระหว่างเข้าร่วมประชุมสภาเมื่อเร็วๆ นี้ จนกลายเป็นปมทางการเมืองที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยนำมาขยายผลว่านายอภิสิทธิ์นำรถยนต์กันกระสุนซึ่งเป็นของทางราชการมาใช้อย่างไม่เหมาะสม เพราะไม่ได้เป็นผู้นำรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีแล้วนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถยนต์กันกระสุนหุ้มเกราะแบบแวนชนิด 2 ตอน 3 ประตู ยี่ห้อแลนด์โรเวอร์ รุ่น Range Rover ขับเคลื่อน 4 ล้อ ผลิตจากสหราชอาณาจักร ได้จัดซื้อมาในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อใช้ในภารกิจรับรองผู้นำในการประชุมอาเชียน ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ การเสนอจัดซื้อโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ดูแลด้านความมั่นคง โดยจัดซื้อทั้งสิ้นจำนวน 20 คันราคาคันละ 6 ล้านบาทโดยใช้งบประมาณกลางของสำนักนายกรัฐมนตรี
สำหรับบัญชีรถยนต์กันกระสุนหุ้มเกราะจำนวน 20 คัน ซึ่งอยู่ในความดูแลของศูนย์รักษาความปลอดภัยนั้นได้แจกจ่ายให้ผู้ยื่นขอเบิกไปใช้งานตามภารกิจขณะนี้ ประกอบด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จำนวน 2 คัน สีดำและสีเทา ทะเบียน ฌฮ 8203 และ ฌฮ 8214, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทะเบียน ฌฮ 8216 สีดำ, พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ทะเบียน ฌฮ 8206 สีดำ, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ทะเบียน ฌฮ 8201 สีดำ, พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ อดีต ผบ.ทร.ทะเบียน ฌฮ 8204 สีดำ, พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ.ทะเบียน ฌฮ 8208 สีดำ อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม ได้เคยเบิกรถกันกระสุนไปใช้เช่นกันในช่วงที่มีการชุมนุนมของกลุ่ม นปช.และได้มอบคืนให้หน่วยรับผิดชอบเรียบร้อยแล้วเมื่อพ้นจากตำแหน่ง เหลือเพียง พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ที่ยังไม่ส่งคืนอยู่รายเดียว
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ทะเบียน ฌอ 5999 สีดำ โดยเบิกไปใช้ครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2553 ต่อมาเมื่อกลายมาเป็นฝ่ายค้านได้เบิกในนามของ กลุ่มงานผู้นำฝ่ายค้าน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับรองผู้นำฝ่ายค้าน แต่ไม่ได้อ้างภารกิจถึงความจำเป็นในเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใดเมื่อ ก.ย. 2554 โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาส่งคืน ทั้งนี้ในการซ่อมบำรุง หน่วยผู้เบิกเป็นผู้รับผิดชอบในการซ่อมบำรุงทั้งหมด ซึ่งหมายถึงการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง และดูแลรักษาสภาพรถให้อยู่ในสภาพพร้อมปฎิบัติงานได้ นอกจากนี้ยังมีรถกันกระสุนหุ้มเกราะอีกจำนวน 12 คันที่สำรองไว้ให้รัฐมนตรีกลาโหมจำนวน 2 คัน สำนักนายกรัฐมนตรีอีก 3 คัน โดยอยู่ในความดูแลของ ศรภ.จำนวน 7 คัน เพื่อสำรองไว้รับรองแขกวีไอพีของรัฐบาล ทั้งนี้ ทาง ศรภ.มีแผนจะนำส่งคืนให้สำนักนายกรัฐมนตรีกลับไปดูแลจำนวน 10 คันโดยกำลังทำเรื่องเสนอคืนในเร็วๆ นี้