xs
xsm
sm
md
lg

“สมศักดิ์” หรี่ตาโหวตพ่ายญัตติหักศาล เกมตบตาต้มแดง-หนีคุก!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
ผ่าประเด็นร้อน

ต้องบอกว่าเนียนจริงๆ สำหรับบทบาทในสภาของบรรดาเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร ในสภาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งตัวประธานรัฐสภา สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางส่วนที่แบ่งบทกันเล่น ออกท่าทางได้ดีจนแทบจับไม่ได้กันเลยทีเดียว

เริ่มแรกตอนที่ประธานรัฐสภาประกาศกลางสภาว่าขอใช้ดุลพินิจไม่ลงมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ในวาระ 3 เนื่องจากต้องการเห็นความสงบสุขของบ้านเมือง และเวลาที่เหลือก่อนปิดสมัยประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติที่นำมติคณะรัฐมนตรีมาแจ้งให้ทราบว่าจะปิดวันที่ 19 มิถุนายน จะเป็นเรื่องพิจารณาเรื่องด่วนที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างประเทศตามมาตรา 190 เท่านั้น ข่าวก็แพร่สะพัดออกไปราวไฟลามทุ่ง โล่งอกกันไปตามๆกัน ผู้นำฝ่ายค้าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ไม่ทันสังเกตก็ลุกขึ้นมาชื่นชมยินดี ฝ่าย ส.ว.อย่าง สมชาย แสวงการ ก็นับถือน้ำใจ คิดว่าทุกอย่างโอเค

แต่ที่ไหนได้ นี่มันเป็นเกมที่แบ่งบทบาทกันเล่น เพราะหลังจากนั้นไม่ทันขาดคำก็มี ส.ส.เพื่อไทยอีกกลุ่มหนึ่งเสนอญัตติพิจารณาว่าคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันสภาหรือไม่ โดยเสนอให้ใช้มาตรา 127 มาใช้ ซึ่งประธานรัฐสภาก็รับลูก โดยก่อนการลงมติก็ทำทีเดินออกจากห้องประชุมอ้างว่าไปทำธุระส่วนตัว 5 นาที จากนั้นก็กลับเข้ามาสั่งโหวตทันที แต่ด้วยที่เป็นเพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่ ทั้งที่เป็น ส.ส.เพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ กลัวผลกระทบทางด้านกฎหมายตามมาก็ทยอยเดินออกจากห้องประชุมไม่ร่วมโหวตด้วย และเมื่อผลคะแนนออกมาก็ตามคาดคือ มีเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งทำให้ญัตติดังกล่าวต้องตกไป

แต่ประเด็นก็คือ อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า นี่คือเกมตบตา และก็หนีคุก เพราะรู้อยู่แล้วว่าลึกๆ แล้วคนพวกนี้ไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงคุก และท้าทายศาล แต่ที่ผ่านมาต้องออกลีลาเพื่อเอาใจ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นเจ้านาย ทำนองว่าเมื่อเจ้านายโกรธ ลูกน้องก็ต้องโกรธตามไปด้วย ที่สำคัญต้องแสดงอารมณ์ร่วม “ให้ถึง” เสียด้วยถึงจะเข้าตา

งานนี้ถ้าเดินหน้าในสภา คนที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดก็คือ ประธานรัฐสภา คือ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ นั่นแหละ แต่ในเมื่อได้ประกาศให้บันทึกเป็นหลักฐานแล้วว่าตัวเองวินิจฉัยว่าไม่สั่งให้โหวตด้วยเหตุผลเพื่อความปรองดอง บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ถือว่า “ลอยตัว” สบายใจไปได้เปลาะหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการป้องกันความซวยที่อาจลามมาถึง นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องลงนามรับรองในตอนท้ายอีกด้วย

นั่นเป็นบทบาทของสมศักดิ์ ในฐานะประธานรัฐสภาที่เสร็จสิ้นไปแล้ว ทีนี้ก็มาถึงพวกลิ่วล้อทหารเลวทั้งหลายที่ต้องออกท่าทางบ้าง ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้วทำได้สมบทบาทแนบเนียนถ้าเป็น “ดาวร้าย” ก็ต้องบอกว่ามันช่างยั่วโมโหได้ดีจริงๆ แต่นั่นก็หมายความว่าได้สร้างความสุขให้กับแฟนๆมวลชนคนเสื้อแดงที่รอชมอยู่หน้าจอไม่น้อย และแม้ว่าอาจจะรู้ล่วงหน้าเสียด้วยซ้ำว่า ญัตติดังกล่าวจะไม่ได้ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง เพราะรู้อยู่เต็มอกแล้วว่า มีส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลไม่กล้าเอาคอไป “พาดเขียง” แต่ที่ต้องแสดงแบบนั้นอย่างน้อยก็เพื่อเอาใจมวลชน เอาใจความรู้สึกของ ทักษิณ ชินวัตร เพื่อแสดงให้อีกฝ่าย “รู้เสียบ้าง” ไม่ต่างจากการเล่นละครตบตา เพียงแต่ว่าคราวนี้เป็นการตบตาทั้งคนเสื้อแดง และ ทักษิณ ที่เป็นคนอุปถัมภ์ค้ำชู อย่างน้อยสำหรับบางคนที่เป็น “นักแสดง”ยังมีลุ้นช่วงปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะมาถึงนับจากนี้ไป

หากสังเกตให้ดีจะพบว่า ในบรรดาที่แสดงท่าทางขึงขังแทบทั้งหมด ล้วนแล้วแต่แอบมีลุ้นหวังเก้าอี้รัฐมนตรี หรืออย่างน้อยต้องการรักษาสถานะเดิมเอาไว้ให้ได้นานที่สุด เริ่มตั้งแต่ พีรพันธุ์ พาลุสุข ที่ลุกขึ้นอภิปรายสวนประธานสภาทันที ก่อแก้ว พิกุลทอง หัวโจกคนเสื้อแดงที่จู่ๆแรงขึ้นมาหลังจาก จตุพร พรหมพันธุ์ พ้นจาก ส.ส.และได้รับคำมั่นจาก “นายใหญ่” แล้วว่าจะ “ตกรางวัล” ให้ ขณะที่ อีกฟากหนึ่งอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่นาทีนี้ถือว่าสถานะค่อนข้างมั่นคงกลายเป็นกุนซือ ข้างกายของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไปแล้ว ก็ต้องยืนบทบาทอีกแบบหนึ่ง นิ่ง ลุ่มลึกอย่างไม่น่าเชื่อ

ดังนั้นถ้าให้สรุปก็ต้องบอกว่านี่เป็นเกม “ปาหี่” ตบตา ที่แบ่งแยกหน้าที่ แบ่งบทบาทกันเล่น ทั้งบทพระเอก ผู้ร้าย แต่สุดท้ายผลก็ออกมาแบบ “วิน วิน” แต่คนที่ “เสียหาย” มากที่สุดเห็นทีจะหนีไม่พ้น ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ!!

กำลังโหลดความคิดเห็น