“เทพไท” วิเคราะห์ศึกภายในเพื่อไทย ระหว่างเนื้อแท้กับแกนนำแดง หลังนายใหญ่ส่งสัญญาณถีบทิ้ง เตรียมดึงสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เสริมความแกร่ง “ครม.ปู”
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ว่า ขณะนี้เกิดความขัดแย้งระหว่างเนื้อแท้ของพรรคเพื่อไทย กับแกนนำกลุ่ม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เพิ่งจะก้าวเข้ามามีบทบาทในพรรคภายหลังการชุมนุมใหญ่เมื่อปี 2553 ซึ่งเป็นการชิงการนำภายในของคนพรรคเพื่อไทยที่ชิงไหวชิงพริบ เพราะสมาชิกพรรคเพื่อไทยดั้งเดิมเกิดอาการเขม่นแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็น ส.ส.ซึ่งก้าวเข้ามามีบทบาทในพรรคและเป็นผู้กำหนดตำแหน่งสำคัญทางการเมืองในช่วง 2-3 ปีที่ผานมา แม้แต่ตัวประธานสภาเองก็มีความเกรงใจ เปิดโอกาสให้ ส.ส.แกนนำคนเสื้อแดงได้อภิปรายในสภาเสมอมา
แต่จากกรณีที่มีการผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ มีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองเก่าในพรรคที่นำโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กับแกนนำคนเสื้อแดงที่นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จนเกิดอภปิรายในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายกฯ ให้ความสำคัญและยอมรับแนวทางข้อเสนอของ ร.ต.อ.เฉลิม มากกว่านายณัฐวุฒิ จนเป็นที่มาของการส่งสัญญาณให้มีการสั่งถอยการโหวตในวาระที่ 3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง รวมถึงการชะลอผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง 4 ฉบับออกไป โดยจะนำมาพิจารณาในสมัยประชุมทั่วไปของสภาในเดือน ส.ค. จึงเห็นชัดว่าเกมการเมืองขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิมใช้ความเก๋าเข้าคุมสถานการณ์และชี้นำ หักหน้าทำลายความน่าเชื่อถือของแกนนำคนเสื้อแดงให้ถอยออกจากพรรคเพื่อไทยไป
“แม้แต่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นแกนนำเสื้อแดงคนหนึ่งที่ออกมาขับไล่ให้เปลี่ยนตัวประธานสภา แต่ ร.ต.อ.เฉลิมกลับออกมาหักหน้าโดยการยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวประธานสภา พร้อมเสนอข้อมูลเชิงลึกวิเคราะห์เกมการเมืองเพื่อให้รัฐบาลชุดนี้อยู่ครบเทอม สวนแนวความคิดของแกนนำคนเสื้อแดงที่ต้องการแตกหักเพื่อชนกับกลุ่มอำมาตย์เพื่อเอาใจมวลชนคนเสื้อแดง ซึ่งสอดคล้องกับสัญญาณที่นายใหญ่ได้โฟนอินมายังเวทีที่ราชประสงค์ว่าไม่ต้องการใช้บริการคนเเสื้อแดงแล้ว แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังถีบหัวเรือส่ง ไม่ให้ความสำคัญกับคนเสื้อแดง จึงขอให้จับตามองการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพรรคเพื่อไทย หลังมีการปลอดล็อกคนบ้านเลขที่ 111 พ.ต.ท.ทักษิณจะหันมาใช้บริการคนเหล่านี้มากกว่า เพื่อมาเสริมทีมให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการปรับ ครม.ต่อไปแน่นอน”