เปิดตัว 2 หญิงสาววัย 26 ปี โยงใยธุรกิจ “สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” โอนหุ้นให้นัวเนียช่วงก่อนนั่งเก้าอี้รัฐมนตรียุครัฐบาลสมัคร-สมชาย ไม่มีในบัญชีฯ ป.ป.ช.หลายครั้ง ไขคำตอบซุกทรัพย์สินหรือไม่?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานข่าวอิศรา ได้สืบข้อมูลเพิ่มเติมหลังพบว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นอกจากกรณีถือครองหุ้นบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด ปริศนามูลค่า 102.7 ล้านบาท อาจเข้าข่ายปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) อีกข้อหาหนึ่ง ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของผู้รับโอนหุ้นจากนายสมศักดิ์ กรรมสิทธิ์ที่แท้จริงเป็นของนายสมศักดิ์ ดังต่อไปนี้
1. วันที่ 9 พฤษภาคม 2548 นายสมศักดิ์ ได้จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท สไมล์ เฮลธ จำกัด ทุน 1 ล้านบาท ให้บริการศูนย์บำบัดธรรมชาติ มีผู้ถือหุ้น 7 คน ประกอบด้วยนายสมศักดิ์ ถือหุ้นใหญ่ 9,400 หุ้น น.ส.จินตนา ถาโคตร อายุ 26 ปี จำนวน 100 หุ้น และบุคคลอื่นอีก 5 คน ๆ ละ 100 หุ้น รวม 10,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท
ต่อมาวันที่ 12 ธ.ค.2549 นายสมศักดิ์ โอนหุ้นให้ น.ส.จินตนา ถาโคตร ทั้งหมด และน.ส.จินตนาถือหุ้นเรื่อยมากระทั่งเลิกกิจการวันที่ 10 กรกฎาคม 2552
2. วันที่ 21 ตุลาคม 2548 นายสมศักดิ์ ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เค.พี.มิวสิค จำกัด ประกอบธุรกิจโฆษณาและผลิตรายการโทรทัศน์ นายสมศักดิ์ ถือหุ้นใหญ่ 9,400 หุ้น น.ส.จินตนา ถาโคตร 100 หุ้น พร้อมทั้งผู้ถือหุ้นคนอื่นซึ่งเป็นชุดเดียวกับ บริษัท ไมล์ เฮลธ จำกัด
ต่อมาวันที่ 28 มกราคม 2551 นายสมศักดิ์ได้โอนหุ้นไปให้ น.ส.จินตนาทั้งหมด และน.ส.จินตนาถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการกระทั่งได้จดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เนื่องจาก สำนักงานสรรพากรพื้นที่ปทุมธานี 2 ทำหนังสือถึงหัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดปทุมธานี ระบุว่า “ขณะนี้สำนักงานสรรพากรพื้นที่ปทุมธานี 2 อยู่ระหว่างตรวจสอบภาษีอากรของนิติบุคคลรายดังกล่าวไม่แล้วเสร็จ จึงเรียนมาเพื่อโปรดให้เจ้าหน้าที่ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีรายนิติบุคคลรายดังกล่าวไว้ก่อนจนกว่าการตรวจสอบภาษีอากรจะแล้วเสร็จซึ่งจะแจ้งให้ทราบต่อไป” (น่าสังเกตว่าโอนหุ้นก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช)
3.วันที่ 9 กันยายน 2551 น.ส.ชุติภรณ์ อังคศิริมงคล อายุ 26 ปี ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เฟรมพลัส จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตรายการทีวี โดยมีผู้ถือหุ้น 3 คนคือ น.ส.ชุติภรณ์ อังคศิริมงคล กับนายวีระพงษ์ วีระโชติ ถือหุ้นคนละ 4,500 หุ้น และนายสมพงษ์ แซ่เล้า 1,000 หุ้น
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 น.ส.ชุติภรณ์ ได้โอนหุ้นให้ น.ส.จินตนา ถาโคตร และเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหม่ โดย น.ส.ชุติภรณ์ อังคศิริมงคล ยังคงเป็นกรรมการ และยังเปิดดำเนินการ
เห็นได้ว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายสมศักดิ์อย่างน้อย 2 คนคือ น.ส.จินตนา ถาโคตร ผู้ถือหุ้น บริษัท เค.พี.มิวสิค และ น.ส.ชุติภรณ์ อังคศิริมงคล ผู้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท เฟรมพลัส จำกัด
ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายสมศักดิ์ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.ตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ วันที่ 25 กันยายน 2551 ไม่ปรากฏว่ามีรายการเงินลงทุน และ ตอนพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมครบ 1 ปี วันที่ 22 ธ.ค.2552 ระบุว่า มีเงินลงทุน 3 รายการ ได้แก่ 1.หจก.ไทยสงวนก่อสร้าง ชุมแพ เงินลงทุน 250,000 บาท 2.หจก.เบรนเวิร์คมีเดีย 800,000 บาท และ3.บริษัท สไมล์ เฮลธ จำกัด 9,400 หุ้น มูลค่า 940,000 บาท น่าสังเกตว่า มิได้แจ้งว่าถือครองหุ้น บริษัท เค.พี.มิวสิค จำกัด บริษัท เฟรม พลัส จำกัด
ล่าสุดตอนรับตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 2 สิงหาคม 2554 ไม่ปรากฏว่ามีเงินลงทุน บริษัท เฟรมพลัส จำกัด
ดังนั้น หากการถือครองหุ้นของ น.ส.จินตนา ถาโคตร ในบริษัท เค.พี.มิวสิค จำกัด และ บริษัท เฟรมพลัส จำกัด (ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับนายสมศักดิ์) กรรมสิทธิ์ที่แท้จริงเป็นของนายสมศักดิ์ แต่มิได้แจ้งการครอบครอง ต่อ ป.ป.ช. นายสมศักดิ์จะมีชะตากรรมอย่างไร?