xs
xsm
sm
md
lg

นปช.-คนเสื้อเดง “ม็อบมีเส้น” ของจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

การออกมาชุมนุมของ “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อเคลื่อนไหวล่ารายชื่อยื่นถอดถอน 7 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่หน้ารัฐสภา เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกมองว่าเป็นเพียง “ข้ออ้าง” เท่านั้น

เพราะหากมองให้ลึกวิเคราะห์กันถึงแผนซ้อนแผน ก็จะพบว่าเหตุผลที่แท้จริงของการระดมพลคนเสื้อแดงมาในครั้งนี้ ก็เพียงเพื่อเป็น “เกราะคุ้มกัน” สกัดกั้นการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่จะออกมาคัดค้านการออก “กฎหมายทำลายชาติบ้านเมือง” หรือร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ที่ฝ่ายรัฐต้องพ่ายแพ้ “พลังบริสุทธิ์” ของมวลชน “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” และแนวร่วมไปอย่างยับเยิน

นัยหนึ่งก็เป็นการชิงพื้นที่ยึดสมรภูมิหน้ารัฐสภาไว้ก่อน เผื่อว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะซ้อนแผน “ลักไก่” นำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯอีกครั้ง

สุดท้ายแล้วการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่หน้ารัฐสภาแบบข้ามวันข้ามคืนนั้น กลับต้องสูญเปล่า พับเสื่อกลับบ้านอย่างเป็นท่า หรือเรียกได้ว่าเดินทางไกลมาเหนื่อยฟรี เมื่อ “ธิดา ถาวรเศรษฐ์” ประธาน นปช.ประกาศยุติการชุมนุมก่อนเวลาที่กำหนดไว้

เพราะนอกจากร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ จะถูกยัดใส่ลิ้นชักไม่นำขึ้นมาพิจารณาแล้ว ในการประชุมร่วมรัฐสภาวันนั้น พรรคเพื่อไทยยังทำให้คนเสื้อแดงต้องผิดหวัง เมื่อไม่กล้าที่จะเดินหน้าลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระที่ 3 ตามกำหนดการที่วางไว้ เนื่องเพราะติดขัดจากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ที่สั่งเบรกไว้ โดยให้รอการวินิจฉัยของศาลก่อนว่าเป็นกระบวนการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

แต่แล้ว พรรคเพื่อไทย ที่ลั่นวาจาก่อนวันประชุมว่าจะเดินหน้าโดยไม่ฟังคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะถือว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะมาก้าวก่ายการทำหน้าที่ของ “ฝ่ายนิติบัญญัติ” กลับไม่กล้าที่เสนอญัตติให้ลงมติวาระ 3 ชำเรากฎหมายสูงสุดได้เสร็จสิ้นตามที่คนเสื้อแดงตามเชียร์อยู่

โดยเฉพาะอาการของ “ค้อนปลอม” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ที่ดูจะมีแววกังวลอยู่ตลอดการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คล้ายกลับกลัวว่า ส.ส.เพื่อไทยคนไหนจะเล่นแผลงๆ เสนอญัตติให้ลงมติแบบไม่เตี้ยมกันไว้ก่อน เพราะนั่นอาจหมายถึงขาข้างหนึ่งของ “สมศักดิ์” ก้าวเข้าไปในตาราง เพราะหากสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการล้มล้างระบอบการปกครองจริง

คนแรกที่ต้องรับผิดชอบก็คือ “สมศักดิ์” นั่นเอง

เป็นเหตุให้ต้อง “เตะถ่วง” ทอดเวลาไปอีกอึดใจ ก่อนมาลุ้นกันอีกหนในวันที่ 12 มิ.ย.นี้

นอกเหนือจากระบวนการในรัฐสภาที่ผิดพลาดผิดแผนจนตก “ปฏิทินการเมือง” ที่วางเอาไว้แบบแผนรวนไปยกกระบิแล้ว สิ่งที่ที่รับรู้ได้จาก 2-3 วันที่กลุ่มคนเสื้อแดงมาปักหลักชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ก็คือการอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ดูแลเหล่าผู้เข้าร่วมชุมนุมแบบแทบจะปูพรมแดงให้เดินกันเลยทีเดียว

กำลังเจ้าหน้าที่ที่นำมาใช้ดูแลกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทนนอนตากน้ำค้างอยู่หน้ารัฐสภา เป็นกำลังจาก “กองบัญชาการตำรวจนครบาล” เพียง 3 กองร้อย หรือราว 450 นายเท่านั้น ต่างจากการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อสัปดาห์ก่อนที่ระดมตำรวจนครบาล-ภูธร-หน่วยปราบจลาจล สิริรวมกว่า 30 กองร้อย หรือมากกว่า 4,000 นาย เข้าห้ำหั่นกับผู้ชุมนุมที่มาทำหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญ อย่างสงบและปราศจากอาวุธ

รวมทั้งก่อนหน้าที่ “พันธมิตรฯ” จะเคลื่อนมารวมตัวที่หน้ารัฐสภาได้ ก็ต้องฝ่าเครื่องกีดขวางต่างๆ นานามากมาย เจรจากันอยู่หลายหนกล่าจะมาแสดงพลังที่หน้าหน้ารัฐสภาได้

ขณะเดียวกัน การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้ก็ต้องยอมรับว่า มีการนำแท่นปูน-รั้วลวดหนามมาติดตั้งบริเวณโดยรอบรัฐสภาอย่างแน่นหนาเช่นเดียวกับการชุมนุมของพันธมิตรฯ หากเพียงวัตถุประสงค์ของสิ่งกีดขวางเหล่านั้นกลับผิดกันราวฟ้ากับเหว

เพราะตอนที่พันธมิตรฯ มาชุมนุมใช้เป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้เข้าใกล้บริเวณรัฐสภาได้ แต่ของกลุ่มคนเสื้อแดง กลับนำมาใช้เป็นเครื่องป้องกันรักษาความปลอดภัยไปในตัวให้กับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ปลอดภัย แต่ละด้านมีการตั้งด่านไว้ 2 ชั้น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนดูแลอยู่ประจำจุดด้วย

เป็นเหมือนกับการป้องกันไม่ให้คนภายนอกเข้ามาสร้างความปั่นป่วน มากกว่าป้องกันการชุมนุม

ซึ่งจะผิดไปจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และแนวร่วม ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะป้องกันอย่างเต็มที่ ไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าในพื้นที่

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็น “สองมาตรฐาน” ของรัฐบาลชุดนี้ได้เป็นอย่างดี คือ คนที่มาดูแลจัดแจงสถานที่ก่อนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะทยอยมายึดพื้นที่หน้ารัฐสภา ก็เป็น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ได้เดินทางมาดูพื้นที่หน้ารัฐสภา เพื่อตรวจความเรียบร้อยด้วยตัวเอง

ไม่ต่างจากการทำความสะอาดสถานที่เพื่อต้อนรับ “แขกกิตติมศักดิ์” ของรัฐบาล

เมื่อดูให้ละเอียดก็จะพบอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำหน้าที่อยู่เคียงคู่กับการ์ดของคนเสื้อแดงอยู่ตลอดเวลา ราวกับเป็นทีมงานเดียวกัน

และที่สร้างความฮือฮาให้กับสังคมได้ตั้งข้อสงสัยอีกเรื่องก็เมื่อมีการเปิดเผยของสื่อมวลชนบางสำนักว่าพบเห็น “ชายฉกรรจ์” ที่ถูกระบุว่า เจ้าหน้าที่และลูกจ้างในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯจำนวนมาก ที่เดินทางมานอนหลับพักอยู่บนอาคารที่จอดรถของสวนสัตว์ดุสิต

มีการกางเต็นท์ ผูกเปลนอนกันเกือบทุกชั้น ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าชายฉกรรจ์กลุ่มนี้จะเดินทางมาเพื่อเป็นการ์ดให้กับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้

ต่างๆเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของ “ฝ่ายรัฐ” ได้เป็นอย่างดี หรือจะว่าไป วันนี้เราได้เห็น “ม็อบมีเส้น” ตัวจริงเสียงจริง

ตลอดจนสุ้มเสียงของ “คนในรัฐบาล” ที่เปลี่ยนคีย์เปลี่ยนอารมณ์ต่างจากการที่เคย “ตวาด” ใส่ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ มาคราวนี้กลับออกอาการให้ท้ายกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่มีแม้แต่การตำหนิว่าจะมาสร้างความวุ่นวาย ซึ่งเหมือนการเลือกปฏิบัติทั้งที่เป็นรัฐบาลของประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ออกชื่นชมการแสดงพลังของคนเสื้อแดงไม่ขาดปาก

ถึงบรรทัดนี้นอกจากจะสรุปว่า รัฐบาลชุดนี้ให้ท้ายกลุ่มคนเสื้อแดงแล้ว ยังมองได้อีกว่า “ฝ่ายบริหาร” ผู้รับผิดชอบประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ยังร่วมสนับสนุนการกระทำที่ไม่ส่งผลดีต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตรยิ์ทรงเป็นประมุข ในการปล่อยให่กลุ่มบุคคลคุกคามโจมตีการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขัดขวางการทำหน้าที่ของ “ฝ่ายตุลาการ” ซึ่งเป็น 1 ใน 3 อำนาจที่สำคัญของประเทศ

โดยเฉพาะ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ก็ลอยตัวอยู่เหนือเรื่องนี้อย่างชัดเจน ไม่มีการห้ามปรามคนของตัวเองให้ยุติการกระทำในลักษณะสร้างความวุ่นวายความเดือดร้อนให้กับคนอื่นที่ยืนอยู่ในสังคม

เพราะที่ผ่านมาก็มีความชัดเจนว่า กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพรรคการเมืองที่ตัวเองสนับสนุนจะได้เป็นรัฐบาลแล้วก็ตาม จึงทำให้มีความน่าเป็นห่วงว่าหลังจากนี้ไปสังคมไทยจะมีแต่ความแตกแยกของประชาชนมากยิ่งขึ้นไป

โดยที่รัฐบาลเป็นตัวการสำคัญ
กำลังโหลดความคิดเห็น