ประธาน กมธ.ตำรวจ สภาฯ ตามติดเด้ง “วินัย-วิชัย” เข้ากรุ หลังคุมม็อบต้านปรองดองไม่ได้ ชี้ส่อคำสั่งมิชอบ พร้อมดู “คำรณวิทย์” หลังเคยปราบม็อบจะนะมาแล้ว สับเอื้อแดงมีอภิสิทธิ์เหนือกลุ่มอื่น แฉบิ๊กตำรวจเริ่มเอียงเอาใจการเมืองมากเกิน จนทำระบบปั่นป่วน แต่รับยังนัดประชุมไม่ได้
วันนี้ (10 มิ.ย.) นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงคำสั่งโยกย้าย พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น.ให้มาช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นระยะเวลา 30 วัน รวมทั้งคำสั่งโยกย้าย พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สน.สำราญราษฎร์ และ พ.ต.อ.สินมนูญ์ พุทธิกุล ผกก.สน.ธรรมศาลา ให้มาช่วยราชการที่ บช.น. เป็นระยะเวลา 30 วันนั้นว่า เป็นกรณีที่ตนและคณะกรรมาธิการการตำรวจ กำลังติดตามดู หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า เป็นผลมาจากการที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 4 นายไม่สามารถควบคุมม็อบที่ออกมาคัดค้านการนำ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะอาจจะเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบและไม่เป็นธรรมต่อผู้ปฎิบัติงาน
นายสมชายกล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ตนและคณะกรรมาธิการการตำรวจยังติดตามการทำงานของ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. เนื่องจากในอดีตเคยมีประวัติปราบม็อบท่อก๊าซที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ด้วยความเด็ดขาด ซึ่งเมื่อต้องโยกย้ายมาดูแลพื้นที่ บ.ชน.ที่มักมีการชุมนุมของฝ่ายต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง จะสร้างความชอบธรรมหรือความเท่าเทียมกันในการบังคับใช้กฎหมายได้อย่างไร เพราะลักษณะของการทำงานที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเป็นอย่างมากจนสามารถบุกเข้าไปยังสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างสะดวกสบาย ต่างจากกลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือกลุ่มคนอื่นๆ ที่กลับมีคำสั่งให้ปิดกั้น รวมทั้งพยายามนำกฎหมายออกมาบังคับใช้อย่างรุนแรง ถือเป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นสองมาตรฐาน
นายสมชายกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในการกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็นในระดับใด ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. หากพบว่า มีพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากล และส่อไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ก็จะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูลโดยทันที เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางนาย มีการกระทำในลักษณะที่เอาใจฝ่ายการเมืองมากเกินไป ทั้งที่น่าจะรู้ดีว่าการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน เดี่ยวก็มาเดี๋ยวก็ไปจนทำให้ระบบบริหารงานตำรวจเกิดความปั่นป่วน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาของประชุมคณะกรรมาธิการฯ ที่ชัดเจน เนื่องจากอยู่ในช่วงที่ยังมีสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง ทำให้การประชุมคณะกรรมาธิการฯ ต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด