xs
xsm
sm
md
lg

“เฟซบุ๊กต้านทักษิณ” ร่อนแถลงการณ์ร้องรัฐบาลหยุดลงมติแก้ รธน.-กม.ปรองดอง เรียกสมาชิกชุมนุมต้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กลุ่มเพจแนวร่วมต้านระบอบทักษิณ ออกแถลงการณ์เรียกร้องสมาชิกเข้าร่วมชุมนุมต่อต้าน และให้รัฐบาลหยุดการพิจารณากฎหมายปรองดอง ชะลอการลงมติวาระ 3 ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อน หากดึงดัน “ทักษิณ” ต้องรับผิดชอบ

วันนี้ (8 มิ.ย.) กลุ่มเพจแนวร่วมต้านระบอบทักษิณ ซึ่งมี 9 เพจรวมตัวกัน ประกอบด้วย พวกเราชาวไทยไม่ยุบสภา และไม่เอาคนโกงชาติทักษิณกลับคืนมา Watch Red Shirt ศูนย์ปฏิบัติการติดตามผู้ชุมนุมเสื้อแดง กลุ่มปัญญาชนคนอีสานไม่เอาพรรคเพื่อไทย Dislike Yingluck For Concentration CitiZen ศูนย์ตรวจสอบเฝ้าระวังนโยบายพรรคเพื่อไทย กลุ่มปัญญาชนคนเหนือไม่เอาพรรคเพื่อไทย ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ก คนละหมัดเดอะซีรีย์ และ คนรู้จริงไม่เอารัฐบาลสีแดง ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ปลุกชาวเน็ตร่วมชุมนุมต้าน นิรโทษกรรมคนโกง หากรัฐบาลยังเดินหน้าไม่ฟังเสียงทัดทานจากหลายฝ่าย มีเนื้อหา ดังนี้

จากสถานการณ์ความตึงเครียดของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทางกลุ่มแนวร่วมเพจต้านระบอบทักษิณ มีความเห็นตรงกันว่า ต้นเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ซึ่งมีเนื้อหาล้างความผิดให้คนโกง คืนสิทธิให้คนทุจริตได้รับทรัพย์สินที่โกงชาติกลับคืน ล้มล้างคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อันถือเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม และระบบยุติธรรม อย่างรุนแรง

ที่ผ่านมา ประเทศไทยเคยมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมตั้งแต่ปี 2475-2535 รวม 21 ฉบับ ไม่มีแม้แต่ฉบับเดียวที่นิรโทษกรรมให้กับคดีทุจริต แต่ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ทั้ง 4 ฉบับ ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร นอกจากจะมีเนื้อหานิรโทษกรรมให้กับคนทุจริตแล้ว ยังนิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดอาญาจากข้อหาก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง ซึ่งจะทำให้ผู้ต้องหากว่า 200 คดีพ้นผิดไม่ต้องรับโทษ โดยอ้างว่า มีเหตุจูงใจทางการเมือง อันจะกลายเป็นการสร้างคต่านิยมที่ผิด ไม่เกิดการเรียนรู้จากความสูญเสียของชาติ

กลุ่มเพจแนวร่วมต้านระบอบทักษิณ มีความกังวลว่า สถานการณ์อาจลุกลามจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง หากรัฐบาลยังดึงดันที่จะใช้เสียงข้างมากผลักดันกฎหมายสร้างความขัดแย้งให้มีผลบังคับใช้ โดยจะเห็นได้จากกระแสต่อต้านจากประชาชนหลายภาคส่วน ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ เสื้อหลากสี กลุ่ม 13 สยามไท และแฟนคลับบลูสกาย ที่ออกมาชุมนุมคัดค้านบริเวณรัฐสภา จนทำให้ไม่สามารถประชุมสภา เพื่อพิจารณากฎหมายดังกล่าวได้ตามกรอบเวลาที่วางไว้ ขณะเดียวกัน แกนนำคนเสื้อแดงก็มีการปลุกระดมพี่น้องเสื้อแดงให้ลุกขึ้นมาปกป้องรัฐบาล อันอาจจะทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างประชาชนจนนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

จึงขอเรียกร้องให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศเลื่อนการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ออกไปโดยไม่มีกำหนด เพื่อจัดเวทีสานเสวนาให้สังคมได้ตกผลึกทางความคิดเกี่ยวกับแนวทางปรองดองให้สอดคล้องต้องกันเสียก่อน ว่า หนทางใดจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ไม่ใช่หักด้ามพร้าด้วยเข่า โดยใช้เสียงข้างมากแต่ไร้ความชอบธรรมมากำหนด จนส่งผลทำให้บ้านเมืองแตกแยกรุนแรง

ทั้งนี้ นายกรับมนตรีจะลอยตัวอยู่เหนือปัญหาไม่ได้ ต้องแสดงภาวะผู้นำปลดชนวนความขัดแย้ง ถอนฟืนออกจากกองไฟก่อนที่จะสายเกินไป ด้วยการออกพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้ประชาชนมีความสบายใจว่าจะไม่มีการลักไก่พิจารณากฎหมายนี้อีก จากนั้นจึงค่อยหาฉันทามติจากสังคมเพื่อกำหนดแนวทางปรองดอง ดังที่กล่าวแล้วในข้างต้น

ในขณะที่ความขัดแย้งเกี่ยวกับกฎหมายที่จะทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม และระบบยุติธรรมของประเทศยังไม่ได้ข้อยุติ ก็เกิดสถานการณ์ซ้อนที่อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดวิกฤตในบ้านเมืองรวดเร็วขึ้น เนื่องจากคนในรัฐบาลแสดงท่าทีชัดเจนที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล รธน.ที่ให้ระงับการลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไข รธน.มาตรา 291 ไว้ก่อน เนื่องจากศาลได้รับคำร้องที่จะไต่สวนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือไม่

สิ่งที่เกิดขึ้นยิ่งตอกย้ำว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ขาดความเข้าใจต่อหลักการของระบอบประชาธิปไตย ที่มี 3 อำนาจถ่วงดุลกัน คือ บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งซึ่งตามรัฐธรรมนูญก็ระบุไว้อย่างชัดแจ้ง ว่า มีผลผูกพันต่อทุกองค์กร แต่คนในรัฐบาลกลับปลุกระดมประชาชนและมีท่าทีชัดเจนว่าจะไม่ปฏิบัติตาม ถึงขนาดมีข่าวว่า จะดึงดันบรรจุวาระการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ถือเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์บ้านเมืองให้เลวร้ายลง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายนายกรัฐมนตรี ก็ยังคงเป็นศูนย์กลางของปัญหา ทั้งการผลิตวาทกรรม ว่า “ถูกปล้นเงิน 4.6 หมื่นล้าน และศาล รธน.กำลังปล้นอำนาจประชาชน”

จากเหตุการณ์ข้างต้นมีความชัดเจนว่า รัฐบาลที่มี นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี มิได้มีความเป็นตัวของตัวเองในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อบ้านเมือง แต่บริหารงานตามคำสั่งของนักโทษชายที่ทำตัวเป็นอันธพาลนอกรัฐธรรมนูญ สั่งการทำร้ายชาติอยู่นอกประเทศ

นายกรัฐมนตรีเคยประกาศเป็นคำมั่นต่อประชาชนในวันที่รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2554 ว่า “ดิฉันจะมุ่งมั่นสร้างสุข สลายทุกข์ให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างสุดกำลังความสามารถ ดิฉันจะไม่ทำเพื่อกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง แต่จะทำเพื่อประเทศชาติและคนไทยทุกคน” ซึ่งถือเป็นคำสัตย์ฯที่ให้ไว้กับคนไทย

สถานการณ์บ้านเมืองจะเข้าสู่วิกฤตหรือไม่ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำประเทศอยู่ในวิสัยที่จะกำหนดชะตากรรมประเทศได้ ด้วยการพิสูจน์ตัวเอง ทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ตัดสินใจโดยยึดความถูกต้อง ไม่ใช่ความถูกใจ หรือความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ พี่ชายนายกรัฐมนตรี

ประเทศไทยบอบช้ำมามากแล้ว คำพูดนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ใช้บ่อยมาก แต่กลับไม่เคยแสดงให้คนไทยเห็นว่าจะสมานบาดแผลแผ่นดิน เยียวยาความบอบช้ำ คืนความสงบให้ประเทศอย่างไร ตรงกันข้ามในขณะที่ประเทศกำลังอยู่ในภาวะที่เรียกได้ว่า “คอขาดบาดตาย” คนเป็นนายกรัฐมนตรี กลับพูดอย่างไม่รับผิดชอบว่า “ยังไม่ได้อ่าน พ.ร.บ.ปรองดอง แต่อ้างว่า ทั้ง 4 ร่างเป็นประโยชน์และขอให้ทุกคนเคารพเสียงข้างมากในสภา”

ถ้าคนระดับผู้นำประเทศยังไม่ได้อ่านเนื้อหาในร่างกฎหมายที่กำลังก่อให้เกิดความรุนแรงในประเทศ ในขณะที่ผลสำรวจความเห็นประชาชน พบว่า กว่า 70% ไม่เคยทราบเนื้อหาในร่างกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน ทั้งที่เป็นกฎหมายสำคัญที่จะส่งผลต่อการทำลายระบบยุติธรรมอย่างรุนแรง จึงไม่มีความชอบธรรมที่รัฐบาลจะใช้เสียงข้างมากสร้างสงครามปรองดอง

ถึงเวลาที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ จะต้องแสดงให้คนไทยเห็นว่า มีเจตนา “สร้างสุขสลายทุกข์” ให้กับพี่น้องคนไทย หรือจะ “สร้างทุกข์ให้คนไทย เพื่อพี่ชายเสวยสุข” โดยต้องก้าวข้ามผลประโยชน์ของพี่ชาย ยึดประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง เพื่อนำชาติบ้านเมืองออกจากความขัดแย้ง

กลุ่มแนวเพจร่วมต้านระบอบทักษิณ มีความจำเป็นที่จะต้องปลุกประชาชนให้ลุกขึ้นมาต่อต้านการกระทำที่ขัดต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรม หวังล้างผิดให้คนโกงของรัฐบาล โดยมีมติร่วมกันที่จะส่งคำเชิญชวนสมาชิกกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 6 แสนราย เข้าร่วมชุมนุมต่อต้าน เพื่อแสดงให้รัฐบาลเห็นถึงความต้องการของประชาชน และหันกลับไปบริหารประเทศมุ่งแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับการแก้ปัญหาให้กับฝ่ายการเมือง

ทั้งนี้ กลุ่มแนวร่วมเพจต้านระบอบทักษิณ ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ว่า มิได้มีเจตนาจะโค่นล้มรัฐบาล ด้วยตระหนักดีว่า รัฐบาลมาตามวิถีทางระบอบประชาธิปไตย มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี แต่ประชาชนทั้งที่เลือก และไม่เลือกรัฐบาล ก็มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ว่า ได้ใช้อำนาจแทนปวงชนชาวไทยเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม หรือมีวาระซ่อนเร้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้กับญาติพี่น้อง หรือพรรคพวกตัวเอง จนทำให้บ้านเมืองเสียหายหรือไม่

กลุ่มเพจแนวร่วมต้านระบอบทักษิณ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายกรัฐมนตรีจะให้โอกาสประเทศไทยเดินหน้าโดยไม่นำปัญหาของพี่ชายนายกรัฐมนตรีมาเป็นอุปสรรค รับฟังเสียงประชาชน หยุดการพิจารณากฎหมายปรองดองเพื่อพี่ชาย แต่ปองร้ายต่อหลักการของประเทศในทันที เคารพต่อคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ชะลอการลงมติวาระ 3 ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อน จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย เพราะการเลื่อนลงมติดังกล่าวมิได้สร้างความเสียหายต่อชาติ บ้านเมือง ตรงกันข้ามจะเป็นการช่วยผ่อนคลายสถานการณ์บ้านเมืองให้เย็นลง แต่ถ้ายังดึงดันที่จะเดินหน้าเรื่องนี้จนเกิดสงครามกลางเมือง เลือดนองแผ่นดิน คนที่ต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะอาชญากรที่ก่ออาชญากรรมต่อประชาชนและประเทศชาติ



กำลังโหลดความคิดเห็น