“บุญยอด” แฉเพื่อไทยเล็งขอยกเว้นข้อบังคับการประชุม เพื่อลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 พรุ่งนี้ หลังนายใหญ่เร่งสัญญาณ แย้มวอล์กเอาต์ไม่สังฆกรรมโหวตแน่ จี้ “ค้อนปลอม” ต้องรับผิด ด้าน “วัชระ” ชี้แดงม็อบหน้าสภาเหมือนเปลือกหอยปกป้องเนื้อเป็นพวกมีเส้น ฉะพวกจวกศาลตะแบงด้วยความละโมบ
วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.00 น. นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงที่รัฐสภาว่า ขณะนี้มีความลับเปิดเผยออกมากจากพรรคเพื่อไทยว่าในการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 8 มิ.ย. หลังจากที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา แจ้งให้ที่ประชุมทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญกรณีศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 แล้ว จะมีทีม ส.ส.ของพรรค นำโดย พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และตามด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ จะอภิปรายในประเด็นคำสั่งดังกล่าว จากนั้นจะมีคนเสนอให้มีการลงมติในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 โดยขอยกเว้นข้อบังคับการประชุมเปิดให้มีการลงมติในเรื่องที่ไม่ได้บรรจุไว้ในวาระการประชุม ส่วนที่ทางพรรคเพื่อไทยต้องการให้มีการลงมตินั้น เนื่องจากได้รับสัญญาณเร่งจากนายใหญ่
“ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ต่อประเด็นนี้จะพยายามอธิบายให้กับประชาชนได้รับทราบถึงข้อมูลด้านต่างๆ และท้ายที่สุดหากจะให้มีการลงมติจริง ทางพรรคจะใช้วิธีวอล์กเอาต์จากห้องประชุม เนื่องจากไม่สามารถลงมติได้จริงๆ และหากเกมเดินเป็นเช่นนั้น นายสมศักดิ์ต้องออกมารับผิดชอบร่วมกับ ส.ส.และ ส.ว.ที่ลงมติ” นายบุญยอดกล่าว
ด้าน นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงด้วยว่า สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมด้านหน้ารัฐสภา เท่ากับเป็นเปลือกหอยที่ต้องการปกป้องเนื้อหอย คือ รัฐบาล และ ส.ส.เพื่อไทยให้ตะแบงโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ได้ ทั้งนี้ม็อบเสื้อแดง ถือเป็นม็อบมีเส้น ซึ่งมีรัฐบาลหนุนหลังอยู่
“หาก พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการ ผบช.น.จะใช้กำลังเข้าปราบปรามม็อบพันธมิตรฯ ผมจะเชิญคุณปวีณา หงสกุล มายืนอยู่แถวหน้าม็อบ เพื่อปกป้องประชาชนและมาดูกันว่า พล.ต.ต.คำรณวิทย์ จะทำอย่างไรกับม็อบบ้าง แต่หากเชิญคุณปวีณาแล้วไม่มา จะใช้รูปเหมือนมาตั้งแทน” นายวัชระกล่าว
นายวัชระกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีคนของพรรคเพื่อไทยออกมาให้ความเห็นต่อประเด็นศาลรัฐธรรมนูญออกคำสั่งให้ระงับการลงมติในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 นั้น เปรียบได้เป็นนักศึกษาวัยคะนอง ไม่เข้าใจและรู้หลักของรัฐธรรมนูญ จึงออกมาตะแบงด้วยความละโมบเท่านั้น