“สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน” เป็นตัวแทนชาวบ้านปากแพรก ฟ้องศาลปกครอง นายก อบต.ปากแพรก อนุมัติก่อสร้างโรงไฟฟ้ากลางชุมชนไม่ชอบ เข้าข่ายละเลยต่อหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
วันนี้ (6 มิ.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน รับมอบอำนาจชาวบ้าน ต.ปากแพรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 38 ราย ยื่นฟ้องนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากแพรก กรณีเซ็นอนุมัติให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชีวมวลสามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ในพื้นที่ใจกลางชุมชนเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยขอให้ศาลเพิกถอนโรงไฟฟ้าดังกล่าวต่อไป ซึ่งศาลรับคำฟ้องไว้สารบบความแผนกคดีสิ่งแวดล้อมแล้ว เป็นคดีหมายเลขดำที่ ส.416/2555 เพื่อจะพิจารณาและมีคำสั่งต่อไปว่าคดีอยู่ในอำนาจที่จะมีคำพิพากษาได้หรือไม่
ขณะที่ นายศรีสุวรรณระบุว่า คดีนี้สืบเนื่องจากบริษัท บางสะพานไบโอแมส จำกัด ได้ยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างโรงไฟฟ้าต่อองค์การบริหารส่วนตำบลปากแพรก ซึ่งนายก อบต.ปากแพรก ออกมาคัดค้านไม่ยินยอมอนุญาตโดยเด็ดขาด รวมทั้งมติของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลปากแพรกก็มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่อนุมัติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวตามคำขอของผู้ประกอบการ แต่ภายหลังผู้ประกอบการได้ยื่นฟ้องนายก อบต.ปากแพรก เป็นจำเลยในคดีอาญาต่อศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายก อบต.จึงมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานจัดทำประชามติตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 287 ขึ้นมาชุดหนึ่ง แต่ยังไม่ทันดำเนินการใดๆ ตามคำสั่งดังกล่าว นายก อบต.ปากแพรกก็มาเซ็นอนุมัติให้ผู้ประกอบการสามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้ภายในพื้นที่ชุมชนอย่างมีเลศนัย ตรงข้ามกับการกระทำก่อนหน้านี้ของนายก อบต.
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า พฤติการณ์ดังกล่าวของนายก อบต.ปากแพรก เข้าข่ายละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จัดตั้งและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2552 มาตรา 9 (2) และขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 287 ประกอบมาตรา 58 โดยชัดแจ้ง สมาคมฯจึงจำต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยก่อนหน้านี้ก็ได้ยื่นฟ้องคดีต่อผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไปแล้ว และคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลางเช่นกัน ซึ่งจะมีการรวมสำนวนพิจารณาคดีหรือไม่ ก็เป็นดุลพินิจของศาล