ชาวประจวบฯ ขอพึ่งบารมีศาล ถอนคำสั่งผู้ว่าฯเอื้อเอกชนสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล

ชาวบ้านปากแพรก 200 คน บุกศาลปกครอง ร้องขอเพิกถอนคำสั่งผู้ว่าฯประจวบ เชื่อ รู้เห็นเป็นใจเปิดไฟเขียวเอกชนสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยมิชอบ วอน ผู้ว่าฯ-คก.อุทธรณ์ คำนึงถึงสิทธิ ปชช.ตามรัฐธรรมนูญ และปฏิบัติตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม-พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ อย่างครบถ้วน

วันนี้ (13 ธ.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ในฐานะผู้รับมอบอำนาจ พร้อมด้วยชาวบ้าน ชาวบ้าน ต.ปากแพรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวนกว่า 200 คน ได้เดินทางมายื่นฟ้องผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ในเขตเทศบาล และเขตราชการส่วนท้องถิ่นอื่นใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และปลัดกระทรวงมหาดไทย ต่อศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่ง หรือคำพิพากษายกเลิกคำสั่งของกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ที่มีมติเอกฉันท์ ให้เพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่แจ้ง “ไม่อนุญาตให้ก่อสร้าง” ตามหนังสือ อบต.ปากแพรก ที่ ปข.74101/99 ลงวันที่ 25 มี.ค.54

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การก่อสร้างโรงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลกำลังผลิต 9.5 เมกะวัตต์ ใน ม.2 ต.ปากแพรก อ.บางสะพาน ได้ก่อให้เกิดความวิตกกังวลแก่ประชาชนในพื้นที่ และบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่อื่นของประเทศ ได้ก่อให้เกิดมลภาวะและกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพของประชาชน รวมถึงวิถีชีวิตของชุมชนโดยรอบ อีกทั้งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว ไม่มีการแจ้งข่าวสารใดๆ ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบ แต่เมื่อชาวบ้านทราบ และมีการรวมตัวคัดค้าน ทาง อบต.ปากแพรก ก็มีมติชัดเจนว่า ไม่อนุญาตให้ก่อสร้างในพื้นที่ แต่ต่อมาคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ ตั้งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว ก็ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียเข้าชี้แจงและอธิบาย อีกทั้งยังมีการกีดกันการเข้าชี้แจงด้วยวิธีการต่างๆ จนในที่สุดคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ จึงมีมติถอนคำสั่งของ อบต.ปากแพรกที่ไม่อนุญาตให้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว

“ทางชาวบ้านจึงขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ และคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ตามคำวินิจฉัยที่ 3/2554 ลงวันที่ 4 ก.ค.2554 และขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาว่าการแต่งตั้งคณะกรรมการอุทธรณ์เป็นดุลพินิจที่ไม่ชอบ และให้เพิกถอน และให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถตรงกับสายงานและมีความรู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อมมาเป็นกรรมการแทน รวมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ และคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ และปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ อย่างครบถ้วนตามสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ” นายศรีสุวรรณ กล่าว