“เรืองไกร” เอาบ้าง! รื้ออดีตยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ยุบประชาธิปัตย์ ตาม ม.68 วรรค 3 อ้างเสียงโหวต “มาร์ค” นั่งนายกฯ ปี 51 ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. อ้างศาลวางมาตรฐานยื่นคำร้องโดยตรงได้
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ได้เข้ายื่นคำร้องของให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 3 จากกรณีที่สมาชิกสภาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 51 เนื่องจากได้ตรวจสอบองค์ประชุมและการลงมติของสมาชิกสภาในขณะนั้นพบว่ามีองค์ประชุม 437 คน โดยกฎหมายกำหนดว่าผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือ 235 เสียง แต่การประชุมในวันนั้นมี ส.ส.ที่ลงคะแนนเสียงให้กับนายอภิสิทธิ์จำนวน 219 เสียง ในจำนวนนี้มี 46 คน ที่เป็น ส.ส.สังกัด 3 พรรคการเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค คือพรรคพลังประชาชน พรรคมัฌชิมาธิปไตย และพรรคชาติไทย แล้วยังไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด จึงถือว่าเสียงที่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง เพราะนายอภิสิทธิ์ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจริงเพียง 189 เสียง ถือว่าการกระทำดังกล่าวของนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคหนึ่ง คือกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการที่มิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
“เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้วางมาตรฐานว่าผู้ที่ทราบการกระทำอันเป็นการล้มล้าง หรือการกระทำเพื่อให้ได้อำนาจการปรกครองที่ไม่ได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด สามารถยื่นคำร้องได้โดยตรง ผมก็อาศัยมาตรฐานนี้ เพราะผมทราบการกระทำนี้มาตั้งแต่ปี 2552 และได้ไปยื่นให้กับอัยการสูงสุด แต่เรื่องก็เงียบมาโดยตลอด เมื่อศาลรับคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากบุคคลโดยตรงผมจึงมายื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยกเลิกการบริหารราชการแผ่นดินของนายอภิสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้แม้การบริหารงานของนายอภิสิทธิ์จะล่วงพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นเหตุให้สามารถสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคได้ ซึ่งได้ขอให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วน แล้วเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยเร็ว และในอีกไม่นานนี้จะใช้ช่องทางดังกล่าวมายื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอีกหลายเรื่อง ทั้งอีสต์วอเตอร์ การแจกจ่ายถุงยังชีพ และการที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปราศรัยเรียกร้องทหารให้ออกมาปฏิวัติด้วย” นายเรืองไกรกล่าว