โฆษก ปชป.จับโกหกแม้ว ยันบัญชีทรัพย์สินที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท เป็นทรัพย์สินที่งอกหลังจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยันข้อมูลบัญชีทรัพย์สินในปี 40 มีทรัพย์สินไม่ถึง 6 พันล้าน สะใจผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุบล พท.แพ้ถล่มทลาย เชื่อคนเสื้อแดงเริ่มรู้ทัน “ทักษิณ”
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นำข้อมูลการยึดทรัพย์ที่ คตส.ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้สรุปทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและครอบครัวรวม 7.6 หมื่นล้านบาทมาแสดงต่อสื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โกหกประชาชนด้วยการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จเกี่ยวกับทรัพย์สินก่อนเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยอ้างว่ามีทรัพย์สินอยู่ก่อนถึง 6.4 หมื่นล้านบาททั้งที่ไม่เป็นความจริง จากข้อมูลการแสดงบัญชีทรัพย์สินในปี 40 มีทรัพย์สินไม่ถึง 6 พันล้านบาท มาถึงปี 44 ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรกมีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินกว่า 3 หมื่นล้านบาท แต่เมื่อบริหารประเทศจนถึงปี 49 พบว่ามีการใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอื้อประโยชน์จนทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้มีทรัพย์สินถึง 7.6 หมื่นล้านบาท ดังนั้น การที่ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้าน จึงไม่ใช่การปล้นทรัพย์จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ตามที่มีการกล่าวอ้าง แต่เป็นการยึดทรัพย์สินส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการทำทุจริตออกนโยบายเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจของครอบครัว จึงอยากให้พี่น้องเสื้อแดงตาสว่าง อย่าหลงกลเศรษฐีสกปรกที่จะหลอกให้พี่น้องมา ตายเพื่อให้ตัวเองได้ทรัพย์สิน และพ้นผิดทุกคดี โดยเห็นว่าชีวิตของคนเสื้อแดงนับสิบล้านคนก็ไม่เพียงพอที่จะมาตายกลางถนนเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่รู้จักพอ
นอกจากนี้ นายชวนนท์ยังกล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีที่นายพรชัย โค้วสุรัตน์ ได้รับชัยชนะคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทยด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งในครั้งนี้ แต่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้จัดทำป้ายหาเสียงว่า “ชอบประชาธิปัตย์เลือกพรชัย รักเพื่อไทยเลือกอาจารย์ต้อยเบอร์ 3” ผลปรากฏว่านายพรชัยได้คะแนนเสียง 5 แสนคะแนน ขณะที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยได้เพียง 1 แสนคะแนน จึงคิดว่านี่เป็นการส่งสัญญาณไปยังคนเสื้อแดงและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าหลายคนเริ่มตาสว่าง ซึ่งตนไม่ได้เหมาว่าคนที่เลือกนายพรชัยเพราะรักพรรคประชาธิปัตย์ แต่คงเพราะต้องการใช้พรรคประชาธิปัตย์เป็นเครื่องมือเพื่อให้ประชาชนเกิคดวามชิงชัง และหันไปเลือกคนเสื้อแดง แต่กลับกลายเป็นว่าคนเหล่านี้เริ่มตาสว่างว่าถูกต้อง ถูกหลอกโดยนักธุรกิจการเมืองทึ่ทุจริตคอร์รัปชัน โกงบ้านเมือง อยากกลับบ้านโดยพ้นผิดเอาชีวิตของคนเสื้อแดงมาเป็นเครื่องมือเท่านั้น และตนเชื่อว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นอีกหลายพื้นที่ในภาคอีสาน จึงขอให้รอดูผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่จ.อุดรธานีว่าผลจะออกมาอย่างไร เชื่อว่าคนอุดรจะให้บทเรียนกับพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณอีกครั้ง
