xs
xsm
sm
md
lg

“นพเหล่” เย้ย “มาร์ค” ทิ้งหลักการ ลั่นไม่ยอมเสียงข้างน้อยจับสภาเป็นตัวประกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฏหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
“นพดล” เย้ย “อภิสิทธิ์” ยอมเสียภาพลักษณ์ขวางปรองดอง สะท้อนตัวตนยอมทิ้งหลักการ ทำชาวบ้านตาสว่างทั้งแผ่นดิน สับปล่อยลูกพรรคคุกคามประธานสภาน่าสะเทือนใจ อ้าง พ.ร.บ.ยังมีอีกหลายขั้นตอน แนะประชาธิปัตย์มีน้ำใจนักกีฬา โถ...โอดยอมเข้าสู่สนามเลือกตั้งทั้งๆ ที่เสียเปรียบ ลั่นไม่ยอมให้เสียงข้างน้อยจับสภาเป็นตัวประกัน

วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า จากเหตุการณ์การความวุ่นวายในสภา ในระหว่างการพิจารณาญัตติของสภา ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า ยอมเสียภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขัดขวางร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายอภิสิทธิ์ ประกาศจะขัดขวางกฎหมายทุกวิถีทางและเรียกร้องให้ประชาชนออกมาประท้วงเพื่อขวางกฎหมายปรองดองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้ประชาชนเห็นตัวตนของนายอภิสิทธิ์ว่าเป็นนักการเมืองที่ยอมทิ้งหลักการ ไม่เคารพกติกา พฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์ ทำให้ประชาชนตาสว่างทั้งแผ่นดินว่าแก่นแท้และตัวตนของนายอภิสิทธิ์ นั้นแตกต่างจากภาพลักษณ์ที่พยายามสร้างว่าเป็นนักประชาธิปไตยและยึดมั่นในหลักการโดยสิ้นเชิง เหตุการณ์ในวันนี้ช่วยอธิบายการบอยคอตการเลือกตั้ง การแย่งชิง ส.ส.พรรคพลังประชาชนไปตั้งรัฐบาลทั้งๆที่ตนแพ้เลือกตั้ง ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองในอดีต ทำให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์พร้อมจะทิ้งหลักการและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองเข้าสู่อำนาจและบรรลุเป้าหมายโดยไม่สนใจว่าเป็นการทำลายกระบวนการทางรัฐสภา และเพื่อจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามโดยไม่สนใจรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับสภาและ มารยาทและความดีงามทั้งปวงของระบอบประชาธิปไตยแต่ก็พร้อมใช้วิธีการปลุกม็อบเคลื่อนไหวนอกรัฐสภาและพฤติกรรมที่ลูกพรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้กำลังคุกคาม หยาบคาย ทำร้ายและกระชากเก้าอี้ประธานสภาฯ เป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายและสะเทือนใจ นักประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก

นายนพดลกล่าวต่อว่า การพิจารณาในสภาขั้นเลื่อนระเบียบวาระฯเป็นการพิจารณาขั้นต้นเท่านั้น แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คัดค้านอย่างเอาเป็นเอาตาย ตีรวน คุกคาม และทำร้ายประธานสภาฯ และ ส.ส พรรคเพื่อไทยราวกับการกระทำของม็อบการเมือง ทั้งๆ ที่การพิจารณากฎหมายนั้นมีการพิจารณาอีกหลายขั้นตอนและยังมีการพิจารณาทางวุฒิสภาอีกด้วย และยังสามารถแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำได้ นายอภิสิทธิ์ และ ส.ส.ปชป.ควรมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะ เพราะในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเอาเปรียบพรรคอื่นก่อนการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยก็อดทนและยอมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งที่ตนเองเสียเปรียบ เพราะฉะนั้น เมื่อพรรคประชาธิปัตย์แพ้การเลือกตั้งแล้วเป็นเสียงข้างน้อยก็ต้องยอมรับกติกาประชาธิปไตยที่เคารพเสียงส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นคำพูดที่บอกว่าเสียงข้างมากลากไป จึงไม่ถูกต้อง จะมีจริงก็พวกเสียงข้างน้อยคอยรังควานและตีรวน ซึ่งเราจะยอมให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นไม่ได้ในระบอบประชาธิปไตยที่เสียงข้างน้อยจับสภาฯ เป็นตัวประกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น