“เฉลิม” ยันตำรวจไม่ใช้ความรุนแรงจัดการ แต่รับห่วงม็อบชนม็อบ เล็งถกเจ้าหน้าที่หาสถานที่เลี่ยงให้ เชื่อ “ซูจี” ขอพบคุยปราบยาเสพติด-แรงงานพม่า-ชนกลุ่มน้อย แต่คงไม่คุยเรื่อง “นะคะมวย” ด้านเลขาฯ ปชป.ไฟเขียวสมาชิกชุมนุมต้าน ชี้ตามสิทธิรัฐธรรมนูญ แต่เชื่อไม่ใช่เกณฑ์คนมา ปัดพรรคเป็นโต้โผ ถามทำไมเพื่อไทยปลุกม็อบได้ แต่ไม่ทำไม่ดีเหมือนแน่
วันนี้ (29 พ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 15.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาคัดค้านและสนับสนุนการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่วาระการพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาว่า กลุ่มชุมนุมก็คือกลุ่มเดิมๆ ที่เคยออกมาขับไล่ พรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน ซึ่งทางตำรวจก็จะใช้ความนุ่มนวลในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม โดยยืนยันว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรงอย่างแน่นอน เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็คือคนไทยด้วยกันทั้งนั้น อีกทั้งตนยังคิดว่ากลุ่มที่ออกมาชุมนุมก็ย่อมเป็นคนไทยที่รักบ้านเมืองเช่นกัน ก็คงจะไม่ออกมาใช้ความรุนแรง
ส่วนกรณีความกังวลว่าจะมีกลุ่มที่เห็นต่างและเกิดการปะทะกันนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงต่อกรณีนี้ ซึ่งในเย็นวันนี้ตนก็จะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดสถานที่ให้หลีกเลี่ยงการปะทะกัน
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถถึงกรณีที่นางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านของสหภาพพม่า จะเข้าพบตนในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ว่า ตนคาดว่านางอองซาน ซูจี ก็คงจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับตนในเรื่องของยาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ตนก็จะบอกกล่าวว่าปัญหายาเสพติดไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อที่จะได้หาทางช่วยเหลือกันแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องปัญหาแรงงานพม่า และเรื่องของชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว แต่กรณีของนะคะมวยนั้นตนคงไม่พูดถึง เพราะถือว่าเป็นคนละส่วนกัน โดยนะคะมวยถือเป็นกระเหรี่ยงชนกลุ่มน้อยในพม่าเท่านั้น
ด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคิรีขันธ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯว่า วันนี้ใครที่จะแสดงออกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแสดงความคิดเห็นในเรื่องการชุมนุม ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ส่วนตัว ตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ การที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จะไปปลุกหรือไปเรียกมวลชนมาร่วมคัดค้านด้วยนั้น ก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายที่เขาต้องรับผิดชอบ และคงจะไม่ใช่ลักษณะของการเกณฑ์คนมาชุมนุม แต่หากเป็นการมาร่วมชุมนุมมาด้วยความสงบก็ต้องถือว่าเขามาแสดงสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย ส่วนจะมาด้วยรูปแบบไหนนั้นตอบยาก แต่วันนี้ถามว่า ส.ส.มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นที่จะแสดงอะไรบางอย่างหรือไม่ บอกได้เลยว่า ส.ส.มีสิทธิในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง
เมื่อถามว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแกนกลางในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในการคัดค้าน การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า คงจะไม่ เพราะการทำงานตรงนี้ เมื่อทุกคนมีจุดร่วมเดียวกันก็จะแสดงกิจกรรม หรือการชุมนุมก็เป็นสิทธิ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพรรคจะต้องสู้เต็มที่ในสภา และพรรคจะไม่ห้าม ส.ส.พรรคในการเคลื่อนไหวในกรอบของกฎหมาย ส่วนจะมีการไปปลุกม็อบมาหรือไม่คงไม่มี เพราะเวลานี้ยังเดาใจรัฐบาลไม่ถูกว่าวันนี้รัฐบาลกำลังจะทำอะไรบ้าง
“ขอถามนิดหนึ่งนะว่า ทำไม ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปปลุกม็อบ ทำทุกอย่างได้ และทำไมทุกอย่างต้องมาหยุดที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องเดินตามกรอบตรงนี้ แบบนี้มันถูกต้องไหม และอะไรที่เป็นสิ่งเลวๆ บางอย่างก็ไม่ควรจะเหมือนกัน ไม่ใช่บอกว่าเขาทำแล้วเราจะต้องทำคงไม่ใช่ อะไรที่ไม่ดีเราก็จะไม่ทำ แต่บางเรื่องที่เราทำแล้วมันสามารถปกป้องผลประโยชน์ของประเทศก็เป็นสิทธิ์ที่เราสามารถทำได้” นายเฉลิมชัยกล่าว
