“เทพไท” แฉ “ทักษิณ” ใช้เวทีประเทศลาวปลุกกระแสตลาดการเมือง อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เหน็บรัฐบาลรู้เห็นเป็นใจต่อการกระทำของ “นช.แม้ว” ถือว่าทำลายหลักนิติรัฐ เตือนอย่าอ้างสิทธิส่วนบุคคลเพราะเป็น “นักโทษหนีคดี”
วันนี้ (13 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมาเล่นสงกรานต์ที่ประเทศลาว และปราศรัยกับคนเสื้อแดงที่มาให้การต้อนรับว่า น่าจะเป็นเรื่องของการทำการตลาดทางการเมือง ซึ่งเป็นแนวทาวที่ พ.ต.ท.ทักษิณถนัด เพราะหากดูจากเนื้อหาสาระที่ปราศรัยก็เป็นประเด็นเดิมๆ คือ ออดอ้อนคนเสื้อแดงว่าตัวเองอยากกลับบ้าน เพื่อมาช่วยประเทศชาติและพยายามที่จะให้ความหวังว่าอีกไม่นานจะได้กลับมา รอเพียงอีกนิดเดียว ล้วนแล้วแต่เป็นมุกเดิมๆ ที่เคยใช้มาโดยตลอด
“อยากถาม พ.ต.ท.ทักษิณว่า การรออีกไม่นานที่จะกลับมานั้นเป็นการรอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่รัฐบาลนี้จะออกให้ด้วยใช่หรือไม่ ทั้งนี้ อยากจะเตือน พ.ต.ท.ทักษิณว่า การเคลื่อนไหวใดๆ ในประเทศเพื่อนบ้านอาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ เพราะแม้ว่ารัฐบาลไทยในขณะนี้จะรู้เห็นเป็นใจกับการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่อรัฐเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ผู้บริหารประเทศควรคำนึงถึง” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ดูจากการเดินทางมาประเทศลาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ได้มีประเด็นหรือเนื้อหาสาระอะไรเป็นสำคัญ แต่น่าจะเป็นเรื่องของการเคลื่อนไหวเพื่อให้ตัวเองอยู่ในกระแส และต้องการที่จะปลุกม็อบคนเสื้อแดงให้มีการเคลื่อนไหวอย่างคึกคักอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ไม่มีประเด็นทางการเมืองที่จะให้มวลชนคนเสื้อแดงได้ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการที่กลุ่ม นปช.ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศลาวเป็นสิทธิส่วนบุคคลนั้น นายเทพไทกล่าวว่า ถ้าจะดูเฉพาะ นปช.และคนเสื้อแดงที่เดินทางไปในครั้งนี้ ก็ยอมรับได้ว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล เพราะคนเสื้อแดงเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์จะเดินทางไปไหนมาไหนก็ได้ แต่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จะอ้างสิทธิส่วนบุคคลไม่ได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในฐานะนักโทษหนีคดี และต้องคำพิพากษาของศาลไทยมีโทษจำคุกถึง 2 ปี และเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการนำตัวมาลงโทษตามคำพิพากษา
“การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณจึงเป็นไปโดยเปิดเผยรัฐบาลได้รับรู้ตลอดเวลา จึงอยากจะถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อสร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ระบบนิติรัฐของไทย โดยเฉพาะนายกฯ และรมว.การต่างประเทศต้องตอบคำถามกับสังคมว่า เหตุใดปล่อยปละละเลยเอาความเป็นพี่เป็นน้องปล่อยให้นักโทษหนีคดีลอยนวลในประเทศเพื่อนบ้าน และอยากถาว่ารัฐบาลมีมาตรการใดบ้างที่จะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาลงโทษตามกฎหมาย หรือจะเพิกเฉยอย่างนี้ต่อไปจนกว่าจะผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณสำเร็จก่อน อย่างไรก็ตาม อยากจะเตือนรัฐบาลถ้าลุแก่อำนาจ เหิมเกริม โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศก็จะเห็นพลังมวลชนลุกขึ้นมาต่อสู้ ต่อต้านกับรัฐบาลที่บริหารประเทศด้วยความไม่ชอบธรรมอย่างแน่นอน” นายเทพไทกล่าว