“ดุสิตโพล” เปิดผลสำรวจความเห็นคนกรุงเทพฯ พบส่วนใหญ่เห็นว่าความขัดแย้งเกิดจากความเห็นที่แตกต่างและการแบ่งแยกทางความคิดของสีเสื้อ 36.58% รองลงมาเกิดจากการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ของนักการเมือง 31.75% ส่วนการสร้างความปรองดอง ทุกฝ่ายต้องสามัคคี ร่วมมือกันแก้ปัญหา 33.56% ยอมรับความคิดเห็นของกันและกัน 24.03%
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพมหานคร ในหัวข้อ “ทำไมจึงเกิดความขัดแย้ง” และ “ทำอย่างไรจึงจะเกิดความปรองดอง” ผลสำรวจพบว่า คนกรุงเทพฯ เห็นว่าความขัดแย้งของคนไทยที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุสำคัญ คือ ความคิดเห็นที่แตกต่างกันของแต่ละฝ่าย การแบ่งแยกทางความคิด เสื้อเหลือง-เสื้อแดง มากที่สุดร้อยละ 36.58 รองลงมาคือ การแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ของนักการเมือง ความเห็นแก่ตัวของบุคคลบางกลุ่ม การเอารัดเอาเปรียบ ไม่จริงใจต่อประชาชน ร้อยละ 31.75
ระบบการปกครองของประเทศไทยยังคงเป็นแบบเผด็จการ มีการปฏิวัติรัฐประหาร/ไม่ได้มาจากความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง 12.96% ความเหลื่อมล้ำทางสังคม คนรวยเอาเปรียบคนจน/ไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่ได้รับความ เสมอภาคจากสังคม/เป็นแบบสองมาตรฐาน 9.89% และประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับความเป็นจริง/การนำเสนอข่าวที่ไม่เป็นกลาง 8.82%
สำหรับแนวทางหรือวิธีการแก้ไขความขัดแย้งและสร้างความปรองดอง ผลสำรวจพบว่า ทุกฝ่ายต้องมีความสามัคคี หันหน้าเข้าหากัน ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเพื่อประเทศชาติ/รู้จักให้อภัย ลดทิฐิ ไม่ใช้ความรุนแรง หยุดใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหา 33.56% การยอมรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน ยึดหลักความเป็นจริงและถูกต้อง/ช่วยกันแสดงความคิดเห็นหรือสิ่งที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ ยอมรับข้อตกลงซึ่งกันและกัน 24.03%
นักการเมืองต้องลดความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเอง/ต้องรู้จักเสียสละ คิดถึงประชาชนให้มากๆ/มีความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คอรัปชั่น 19.09% การเคารพกฎหมาย ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย/ไม่แก้ไขกฎหมายเพียงเพื่อประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง ผู้ที่มีความผิดทางกฎหมาย ควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 12.99% คนในสังคมต้องเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รู้จักคิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง หลีกเลี่ยง การพูดคุยเรื่องการเมือง/บทบาทของสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ที่นำเสนอต้องไม่สร้างความแตกแยก 10.33%