xs
xsm
sm
md
lg

พท.เผย “ยงยุทธ” ชง DSI เรียกบิ๊ก กทม.แจงต่อสัญญารถไฟฟ้าแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)
“เด็จพี่” เผย “ยงยุทธ” ชงดีเอสไอเรียกบิ๊ก กทม.แจงต่อสัญญารถไฟฟ้าแล้ว ซัดให้กรุงเทพธนาคมทำเป็นนิติกรรมอำพรางหลี่ยงกฏหมายหรือไม่ จ่อยื่น “ธาริต” สอบอีกรอบ ยันเมืองหลวงไม่มีอำนาจทำสัญญา จี้ “อภิสิทธิ์-สุขุมพันธุ์” รับผิดชอบ ขู่มีติดคุกแน่ ถาม ปชป.ลอยแพ “สุเทพ” รับคดีเงินบริจาคอีสท์วอเตอร์แทนพรรคหรือไม่ เย้ยเงินถึงมือชาวบ้านหรือเปล่า กำชับ กกต.ต้องสอบด้วย


วันนี้ (27 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการต่อสัญญาให้กับ BTSC ต่อไปอีก 13 ปี เป็น 30 ปีของบริษัท กรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ กทม.ว่า ขณะนี้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ทำหนังสือไปถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อเรียกผู้บริหารกรุงเทพมหานครมาชี้แจงแล้ว ซึ่งการทำหนังสือของกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้เป็นการตอบคำถามในสิ่งที่กรุงเทพมหานครทำโดยตรงว่ากรุงเทพมหานครไม่มีอำนาจในการขยายสัญญา ซึ่งการมอบให้กรุงเทพธนาคม (KT) ทำนิติกรรมถือว่าเป็นนิติกรรมอำพราง เพื่อเป็นการหลบเลี่ยงข้อกฎหมายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผุ้บริหาร กทม.ใช่หรือไม่ ดังนั้น ตนจะไปยื่นหนังสือถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี DSI อีกครั้งเพื่อยื่นสอบในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากรุงเทพมหานครไม่มีอำนาจในการทำสัญญาใดๆ ในเรื่องนี้

ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ยังเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แสดงความรับผิดชอบ และอย่าสองมาตรฐานในการดำเนินการตรวจสอบเรื่องทุจริตของฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในระยะยาวเรื่องนี้จะต้องมีคนผิดและติดคุกอีกทั้งยังเป็นคดีพิเศษน่าจะมีการเชื่อมโยงไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังได้อีกด้วย

ส่วนกรณีเงินบริจาคของบริษัท อีสท์วอเตอร์ นั้น โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนเป็นการโยนเรื่องดังกล่าวไปให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นเรื่องของการเปิดบัญชีเพื่อช่วยเหลือน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้วและไม่เกี่ยวกับพรรค คล้ายกับเป็นการส่งสัญญาณเพื่อลอยแพนายสุเทพใช่หรือไม่

นายพร้อมพงศ์ระบุว่า ในการเปิดบริจาคช่วยเหลือน้ำท่วมในครั้งนั้น มีบริษัทมาบริจาคถึง 191 ราย ซึ่งมีคนร้องเรียนมายังพรรคเพื่อไทยว่าเงินบริจาคดังกล่าวถึงมือประชาชนหรือไม่ และตกหล่นหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ตนจะยื่นหนังสือและข้อมูลให้ DSI ดำเนินการตรวจสอบบัญชีบริจาคของนายสุเทพว่ายอดเงินบริจาคสุดท้ายแล้วมีเงินรวมเท่าไหร่ เพราะเท่าที่ทราบมีการออกแคชเชียร์เพียงใบเดียวมันตรงกันไหม ตนโดยจะทำหนังสือทำหนังสือไปถึงสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อขอตรวจสอบว่าตัวเลขตัวเลข 191 รายตรงกันหรือไม่

นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวด้วยว่า กกต.ต้องเข้ามาดำเนินการตรวจสอบว่าประเด็นเงินบริจาคดังกล่าวจะส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบพรรคได้หรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นการทำนิติกรรมอำพราง พร้อมเรียกร้องให้อธิบดีดีเอสไอช่วยติดตามอีกทางหนึ่งด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น