เว็บบอร์ดคณะแพทย์ ม.อ.หาดใหญ่ แฉสองผัวเมียเสื้อแดงอ้างความเป็นหัวหน้าผู้ป่วยกระดูกและข้อหญิง หลอกใช้หอประชุม จัดงานตีปี๊บกองทุนสตรีฯ 5 หมื่น เชิญผู้ว่าฯ สงขลาไปเปิดงาน คณบดีเผยถูกหลอกใช้หอประชุม สั่งขึ้นบัญชีดำห้ามสองผัวเมียห้ามใช้หอประชุม-ทำกิจกรรมในคณะ รวมทั้งรับผิดชอบความเสียหาย พร้อมสอบสวนใช้เวลาราชการหาเสียงการเมือง
วันนี้ (22 พ.ค.) แฟนเพจ “ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค” ได้โพสต์ภาพโดยตั้งชื่ออัลบั้มว่า “หลักฐานมัดรัฐบาลใช้กองทุนพัฒนาสตรีเป็นเครื่องมือทางการเมือง” พร้อมหลักฐานประกอบ 7 ภาพ มีเนื้อหาว่า “หลักฐานนี้มันมัด รบ.ยิ่งลักษณ์ ใช้กองทุนพัฒนาฯ ข้าราชการ และงบประมาณ เพื่อหาประโยชน์ทางการเมือง โดยมีการจูงใจด้วยการให้กู้เงินรายละ 5 หมื่นบาทแลกกับการเข้าเป็นสมาชิก ซึ่งต้องเข้าร่วมประชุม 3 ครั้ง และในการประชุมจะมีการติดโบแดงเป็นสัญลักษณ์ ใช้กองทุนสตรีบังหน้า แต่แจกเอกสารของคนเสื้อแดง กลายเป็นการประชุมทางการเมือง จนเกิดปัญหาภายในคณะแพทย์ ถึงขั้นคณบดีขึ้นบัญชีดำข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำกิจกรรมที่มีการเมืองเข้าไปแอบแฝง แถมงานนี้มีผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาไปเปิดงานด้วย ใช้กลไกรัฐ งบหลวง ขยายฐานเสื้อแดง รูปแบบของรัฐไทยใหม่” ทำให้มีชาวเฟซบุ๊กเข้าไปกดไลก์และแชร์กันอย่างกว้างขวาง รวมทั้งแสดงความเห็นประณามรัฐบาลที่ใช้กลไกรัฐ ข้าราชการ และงบประมาณของประชาชนไปใช้หาเสียงในทางการเมือง จนเกิดความแตกแยกในพื้นที่ลามไปถึงคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.)
สำหรับภาพประกอบที่แฟนเพจขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค นำมาเผยแพร่เป็นข้อความในเว็บบอร์ดของคณะแพทยศาสตร์ ม.อ. วิททยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งโพสต์โดย รศ.นพ.บุญสิน ตั้งตระกูลวนิช และบุคลากรสำนักงานธุรการภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ฯ หัวข้อ “ทำอย่างนี้ได้อย่างไร” มีเนื้อหาว่า “เหตุการณ์ในวันนี้ที่เกิดขึ้น (21 พ.ค.) ณ ห้องทองจันทร์ฯ คณะแพทย์ฯ กาลครั้งหนึ่ง ณ ห้องทองจันทร์ มีกลุ่มสตรี (เสื้อแดง) มาประชุม (อะไร? ทำไม?ได้อย่างไร?) พร้อมเพรียงโดยมีหัวหน้าหอผู้ป่วยกระดูกและข้อหญิงและสามี เป็นแกนนำในการจัดประชุม โดยมีคำถามที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า 1. ผู้ใดอนุญาตให้ใช้สถานที่ราชการจัดงานทางการเมืองได้ 2. เหตุใด รปภ.คณะแพทย์ฯ อนุญาตให้ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่มีบัตรผ่านของมหาวิทยาลัย แต่มีบัตร (เบ่ง) สามารถเข้ามาในเขตพื้นที่ของโรงพยาบาลได้ 3. หัวหน้าหอผู้ป่วยกระดูกและข้อหญิงใช้เวลาราชการ พร้อมทั้งให้บุคลากรของวอร์ดและวัสดุอุปกรณ์ของทางราชการ ใช้ในการประชุมครั้งนี้ได้อย่างไร
จากนั้นมีการโพสต์ข้อความชี้แจงจาก “ศูนย์จัดการประชุม” ว่า “ในการขอใช้บริการครั้งนี้มาในนามของ “ชมรมเสียงสตรีจังหวัดสงขลา” ผู้ขอใช้บริการ คือ คุณพัทนัย แก้วแพง ทางผู้ใช้บริกการได้ทำหนังสือถูกต้องตามระเบียบค่ะ โดยทางคณะแพทยศาสตร์ได้เน้นย้ำเรื่องการประชุมดังกล่าวแล้วว่าไม่ควรเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งคุณพัทนัยรับทราบค่ะ บอกมาในนามชมรมเสียงสตรี ไม่เกี่ยวกับการเมืองแน่นอน กำหนดการที่แนบมาก็มีผู้ว่าราชการจังหวัดมาร่วมพิธี และได้แจ้งว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมไม่เกิน 600 คนค่ะ โดยขอใช้บริการวงจรปิดจากลานด้านล่าง พอถึงวันงาน เริ่มมีผู้เข้าร่วมงานมากขึ้นเรื่อย ๆ สอบถามว่าเกือบ 2 พันคน โดยทุกคนที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้มาในนามชมรมเส่ยงสตรีจริง แต่มีวัตถุประสงค์เป็นการประชุมชี้แจงกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีครั้งที่ 1 เพื่อการกู้เงินรายละ 5 หมื่นบาท โดยไม่มีดอกเบี้ย ทั้งนี้ผู้ยื่นขอกู้จะต้องเข้าร่วมประชุมให้ครบ 3 ครั้ง ในการลงทะเบียนหน้างานที่แอบไปสังเกตการณ์มา มีการเซ็นชื่อ จำหน่ายเสื้อ แจกเอกสาร (ตามเอกสารฉบับที่ 3) รับเงินเข้าประชุมรึเปล่าไม่แน่ใจค่ะ และติดโบแดง ทางศูนย์ประชุมพยายามควบคุมสถานการณ์แล้วนะคะ แต่เกินการเยียวยาจริงๆ จำนวนคนมากกว่าบุคลากร ทั้งนี้ได้แจ้งให้ผู้บริหารรับทราบแล้วค่ะ”
สำหรับเอกสารที่มีการนำมาโพสต์ชี้แจงผ่านเว็บบอร์ดของคณะแพทย์ฯ ประกอบด้วย บันทึกข้อความส่วนราชการ “สำนักงานประสานงานชมรมพัฒนาบบาทเสียงสตรีสงขลา” ลงวันที่ 1 พ.ค. 2555 เรื่อง ขอใช้ห้องประชุมทองจันทร์หงส์ลดารมย์ ลงนามโดย นางพัทนัย แก้วแพง ประธานชมรมพัฒนาบทบาทเสียงสตรีสงขลา มีเนื้อหาดังนี้
“ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีนโยบายให้มีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทั่วประเทศ และทุกจังหวัดได้สมัครเป็นสมาชิกนับล้านคนมาแล้วนั้น จังหวัดสงขลาจึงจัดให้มีการประชุมเพื่ออธิบายเกี่ยวกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีขึ้น โดยได้เชิญท่านลัดดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และตัวแทนรัฐบาล ในวันที่ 21 พ.ค. 55 เวลา 12.00-16.30 น. ณ อาคารเรียนรวม ห้องประชุมทองจันทร์หงส์ลดารมย์ และใต้อาคารฯ ในวันที่และเวลาดังกล่าวข้างต้น”
เอกสารชิ้นที่ 2 คือ กำหนดการสัมนา ซึ่งมีนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมนา มีนางลัดดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ ประธานชมรมเสียงสตรีประเทศไทย และนายสมพงษ์ สระกวี ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เป็นวิทยากร ส่วนเอกสารชิ้นที่ 3 เป็นหน้าปกหนังสือ “แกนเรด” หน้าปก น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ซึ่งเป็นเอกสารที่ถูกนำมาแจกจ่ายในการประชุมกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีครั้งนี้ด้วย
หลังจากนั้นในเว็บบอร์ดของคณะแพทย์ฯ ได้มีการโพสต์ข้อความชี้แจงจากคณบดี โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ มีข้อความ ดังนี้ “คณบดีขอชี้แจงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ วันที่ 21 พ.ค. 55 กรณีถูกหลอกใช้ห้องประชุมทองจันทร์ฯ เพื่อกิจกรรมทางการเมืองของบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ ผู้รับผิดชอบศูนย์จัดการประชุม ได้รับหนังสือเพื่อขอใช้ห้องประชุมทองจันทร์ฯ เพื่อใช้ในนามชมรมเสียงสตรี สงขลา จากหัวหน้าผู้ป่วยกระดูกและข้อหญิง (นางพัทนัย แก้วแพง) เพื่อประชุมการพัฒนาสตรี ผู้บริหารศูนย์จัดการประชุมได้อนุมัติให้ใช้ห้องประชุมได้ แต่ในความเป็นจริงผู้บริหารศูนย์จัดการประชุมถูกหลอก เพราะเป็นการชุมนุมของคนเสื้อแดงซึ่งขัดแย้งต่อนโยบายของคณะแพทยศาสตร์ ม.อ.ที่ไม่ฝักใฝ่ในทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
คณบดีได้รับทราบปัญหาและรู้สึกตกใจมากที่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในคณะแพทยศาสตร์ และได้เรียกหนังสือทั้งหมดมาตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่า โปรแกรมทั้งหมดไม่มีสาระที่เกี่ยวข้องกับการเมือง อีกทั้งทำพิธีเปิดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่มีนัยทางการเมืองแอบแฝง คณบดีได้เรียกผู้ขอใช้ห้องประชุม นางพัทนัย แก้วแพง มาแจ้งให้ทราบว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการทำร้ายองค์กรอย่างใหญ่หลวงเกินกว่าที่คนในคณะแพทยศาสตร์จะรับได้ และแจ้งให้ทราบว่าคณะจะขึ้นบัญชีดำไม่ให้นางพัทนัย แก้วแพง และนายมนตรี แก้วแพง (สามี) ไม่ให้ใช้ห้องประชุมใดๆ ของคณะแพทยศาสตร์อีกต่อไป และห้ามทำกิจกรรมใดๆ ในคณะแพทยศาสตร์ ตลอดจนต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของอาคารสถานที่ในห้องประชุมทองจันทร์ฯ อีกทั้งคณะบดีอยากให้ นางพัทนัย แก้วแพง หัวหน้าผู้ป่วยกระดูกและข้อหญิง แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำครั้งนี้ สำหรับการใช้เวลาราชการเพื่อเหตุผลทางการเมืองของนางพัทนัย แก้วแพง คณะแพทยศาสตร์จะสืบสวนหาข้อเท็จจริงและพิจารณาลงโทษทางวินัยต่อไป อนึ่ง คณบดีต้องขอโทษแทนผู้รับผิดชอบศูนย์จัดการประชุมและผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ที่อนุม้ติโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในเหตุการณ์ครั้งนี้
