“ก่อแก้ว” ป้อง “นช.แม้ว” ไม่ได้เหยียบหัวสาวกแดงเพื่อจะกลับประเทศ พร้อมประกาศหนุนแนวคิดนายใหญ่สร้างความปรองดอง โต้ “อภิสิทธิ์” กล่าวหาตั้งธงแก้ รธน.เพื่อนิรโทษกรรม อ้าง รธน.50 มีปัญหาไม่เอื้อ ปชต. เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกัน จวกนิด้าโพลสำรวจ “ณัฐวุฒิ” สอบตก ทั้งที่โปรโมตออกสื่อทุกวัน
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แถลงถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เหยียบหัวเสื้อแดงเพื่อจะกลับบ้านว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงลืมอดีตเพื่อสร้างความปรองดอง เป็นความหวังดี ส่งเสริมความปรองดอง ไม่มีเนื้อหาใดที่จะเหยียบย่ำหรือเหยียบหัวคนเสื้อแดงเพื่อที่จะพา พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน แต่เป็นเพียงการชี้แจงในมุมมองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนในฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงก็ยินดีรับฟังและเห็นด้วยในความปรองดอง ไม่อยากให้นายอภิสิทธิ์มายุแยงตะแคงรั่ว เพราะอย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณกับคนเสื้อแดงก็ไม่แตกแยกกันอยู่แล้ว
นายก่อแก้วยังกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุถึงการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มอำนาจให้แก่ฝ่ายบริหาร และตั้งธงต่อการนิรโทษกรรม ว่า นายอภิสิทธิ์คงจะไม่เข้าใจหลักการประชาธิปไตย เพราะว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิมเป็นรัฐธรรมนูญที่มีปัญหา เป็นการออกแบบมาเพื่อเป้าหมายตามคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ไม่ได้เอื้อประชาธิปไตย และยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ประชาชน ในการยอมรับองค์กรต่างๆ ที่มีการใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้อง
“การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้เอื้อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และไม่ได้ลดอำนาจของฝ่ายใด แต่จะดีไซน์เพื่อให้มันสมบูรณ์ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ความอ่อนแอของฝ่ายบริหารและความเข้มแข็งของฝ่ายตุลาการ ความไม่สมดุลของอำนาจ 3 ฝ่าย องค์กรอิสระที่ใช้อำนาจผิด และในหลายๆ เรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากก็ควรมาแก้ไขใหม่ในฉบับนี้ ไม่อยากให้นายอภิสิทธิ์ พยายามชี้นำสังคมในทางที่ผิด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ หากนายอภิสิทธิ์ชื่นชอบรัฐธรรมนูญปัจจุบันก็ควรบอกสังคมไปตรงๆ ดีกว่าที่จะบิดเบือนไปอย่างอื่น”
นายก่อแก้วกล่าวถึงการสำรวจนิด้าโพลในความพึงพอใจการทำงานของรัฐมนตรีว่า จากคะแนนการสำรวจอันดับ 1 เป็นของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และอันดับสุดท้ายเป็น นายบุญทรง เตยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในส่วนรัฐมนตรีช่วย อันดับ 1 นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอันดับท้ายสุด นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งผลสำวจครั้งนี้ตนรู้สึกแปลกใจ เนื่องจากรัฐมนตรีหลายคนเป็นรัฐมนตรีที่โลกลืม แทบจะไม่มีข่าวออกมาตามหน้าสื่อมวลชนเลย ไม่มีกิจกรรมหรือสร้างผลงานอย่างไร แต่กลับได้คะแนนสูงกว่านายณัฐวุฒิ
“ผมไม่มั่นจว่านิด้าโพลตั้งคำถามในการสำรวจอย่างไรบ้าง อยากให้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ ผมเองกลัวว่าถ้ามีการจัดทำโพลโดยที่ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงและความรู้สึกของประชาชนอาจจะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในตัวโพลได้ และประชาชนจะกลัวว่าจะมีการใช้โพลเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการที่จะเล่นงานใครบางคน ซึ่งผมอยากให้โพลทุกโพลได้รับความน่าเชื่อถือและสามารถใช้โพลนั้นๆ มาสะท้อนข้อเท็จจริงให้กับสังคมได้ ไม่เช่นนั้นโพลจะไม่มีความน่าเชื่อถือและจะเป็นการเสียเวลาเปล่าๆ และผมขอเตือนนิด้าโพลให้ระวังมากๆ เพราะอธิการบดีของสถาบันนี้เป็นไม่เบื่อไม้เมากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย”
นายก่อแก้วยังกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุถึงการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มอำนาจให้แก่ฝ่ายบริหาร และตั้งธงต่อการนิรโทษกรรม ว่า นายอภิสิทธิ์คงจะไม่เข้าใจหลักการประชาธิปไตย เพราะว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิมเป็นรัฐธรรมนูญที่มีปัญหา เป็นการออกแบบมาเพื่อเป้าหมายตามคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ไม่ได้เอื้อประชาธิปไตย และยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ประชาชน ในการยอมรับองค์กรต่างๆ ที่มีการใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้อง
“การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้เอื้อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และไม่ได้ลดอำนาจของฝ่ายใด แต่จะดีไซน์เพื่อให้มันสมบูรณ์ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ความอ่อนแอของฝ่ายบริหารและความเข้มแข็งของฝ่ายตุลาการ ความไม่สมดุลของอำนาจ 3 ฝ่าย องค์กรอิสระที่ใช้อำนาจผิด และในหลายๆ เรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากก็ควรมาแก้ไขใหม่ในฉบับนี้ ไม่อยากให้นายอภิสิทธิ์ พยายามชี้นำสังคมในทางที่ผิด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ หากนายอภิสิทธิ์ชื่นชอบรัฐธรรมนูญปัจจุบันก็ควรบอกสังคมไปตรงๆ ดีกว่าที่จะบิดเบือนไปอย่างอื่น”