xs
xsm
sm
md
lg

ครม.สั่ง กต.ถอนคำแถลงโทษประหารเด็กต่ำกว่า 18 ปี ตามสิทธิพลเมืองยูเอ็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่ประชุม ครม.มีมติให้กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งถอนคำแถลงเรื่องโทษประหารเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ตามกติกาสิทธิพลเมือง-สิทธิการเมืองของยูเอ็น ไฟเขียวแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อม-พัฒนาภูมิปัญหาไท ผลักดันยาสมุนไพรอยู่ในบัญชียาหลัก

วันนี้ (20 พ.ค.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการถอนคำแถลงในบทที่ 6 วรรค 5 เรื่องการพิพากษาประหารชีวิตบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี และบทที่ 9 วรรค 3 เรื่องระยะเวลาในการนำผู้ถูกจับกุมไปศาล ภายใต้กติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง เพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับแนวทางขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่แสดงความเป็นห่วงในเรื่องนี้

นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2555-2559 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยมีสาระสำคัญคือเพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม และลดปัญหาและผลกระทบด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อม 7 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านคุณภาพอากาศ 2. น้ำ การสุขาภิบาลและสุขอนามัย 3. ขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย 4. สารเคมีเป็นพิษและสารอันตราย 5. การเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศ 6. การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัย และ 7. การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนยุทธศาสตร์ดำเนินการคือพัฒนาระบบบริหารจัดการอนามัย
สิ่งแวดล้อมทั้งภาครัฐและเอกชน พัฒนาบุคลากรและจัดทำระบบและการเชื่อมโยงฐานข้อมูลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ การป้องกันและลดความเสี่ยงจากปัจจัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยเร่งรัดการดำเนินงานโครงการที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและลดความเสี่ยงจากปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อม ที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและพื้นที่ นอกจากนั้นยังส่งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาคีเครือข่าย และส่งเสริมบทบาทของ อปท.ในการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมให้เชื่อมโยงกับส่วนภูมิภาคและส่วนกลางอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง พัฒนาและถ่ายทอดนวัตกรรมองค์ความรู้และเทคโนโลยี รวมทั้งพัฒนาระบบให้บริการทางวิชาการ เพื่อการเข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงต่อว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ชาติ การพัฒนาภูมิปัญญาไท สุขภาพวิถีไท ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2555-2559) ตามที่คณะกรรมการภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพเสนอ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องต่อไป และให้คณะกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพแห่งชาติ ประสานงานเพื่อขับเคลื่อน ผลักดันการดำเนินงาน ติดตาม กำกับ ประเมินผล แผนยุทธศาสตร์ชาติ และรายงานผลการดำเนินการให้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป โดยมีสาระสำคัญคือ เพื่อกำหนดเป้าหมายและจุดประสงค์ ให้ใช้ปัญญา ความรู้ ความมีเหตุผล ในการพัฒนาวิชาการและองค์ความรู้จากฐานเดิมอย่างต่อเนื่อง โดยชุมชนและชุมชนท้องถิ่นตระหนักถึงคุณค่าและมีบทบาทในการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก เพื่อการดูแลสุขภาพของชุมชนและชุมชนท้องถิ่นอย่างเหมาะสม ในการดูแลสุขภาพของชุมชนโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เพื่อให้การพัฒนาระบบการแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก มีประสิทธิผล ปลอดภัย น่าเชื่อถือและคุ้มค่า เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยที่ระบบบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกของประเทศมีมาตรฐาน ทั้งในด้านองค์ความรู้ การบริการ กำลังคน ยาจากสมุนไพร และฐานทรัพยากรสมุนไพรและอาหาร โดยพัฒนานักวิจัยกลุ่มและเครือข่ายการวิจัยและบุคลากร อีกทั้งส่งเสริมชุมชนในการปลูกสมุนไพรและมีตลาดกลางสมุนไพร ส่งเสริมความเข้มแข็งของระบบยาจากสมุนไพร โดยเพิ่มรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ นอกจากนั้นยังพัฒนาศักยภาพ มาตรฐานของอุตสาหกรรมยาไทย โดยการจัดตั้งโรงงานกลางสมุนไพรแห่งชาติที่ได้มาตรฐาน (GMP และ GLP) และจัดทำระบบข้อมูลภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์แผนไทยส่วนกลางของประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น