“ประยุทธ์” ห่วงตั้งหมู่บ้านแดงพื้นที่ภาคใต้เพิ่มปัญหา พร้อมเตือนให้ระวังการขยายไปในจังหวัดต่างๆ เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย ส่วนการชุมชุมของก๊วนแดง 19 พ.ค. ประชาชนจะพิจารณาเอง เผยเตรียมทหาร 6 พันนาย รปภ.ครู นักเรียน 400 โรงเรียนช่วงเปิดเทอม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเกิดปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ว่า เรื่องในภาคใต้เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง ไม่ว่าจะฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายใดๆ ก็ตามที่ลงไปทำงาน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังไม่สงบ และไม่สันติ หากเราไปเพิ่มปัญหาให้มากขึ้นจะทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่ ตนก็ไม่แน่ใจ แต่ไม่ขอวิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร เพราะคิดว่าฝ่ายผู้กระทำและคนที่อยู่ในพื้นที่ก็ทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร ขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้รับทราบปัญหาเรื่องนี้แล้ว ส่วนการขยายหมู่บ้านเสื้อแดงไปในจังหวัดอื่นๆ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่นั้น ตนคิดว่ามีผลในเรื่องทางการเมืองมากกว่า ซึ่งทหารก็ได้ไปพบปะพุดคุยกับประชาชนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะถูกต้องหรือไม่ ซึ่งช่วงนี้ต้องระมัดระวังเพราะเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย ต้องให้เวลาในการแก้ไขปัญหาว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงคืออะไร และแค่ไหนอย่างไร ต้องเรียนรู้และช่วงเวลาการเรียนรู้ต้องมีได้มีเสีย มีเจ็บปวด แต่ขอให้ทุกคนนึกถึงประเทศชาติบ้านเมืองให้มาก ทุกอย่างก็จะดีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 19 พ.ค.นี้ เนื่องในวันครบรอบ 2 ปีเหตุการณ์ที่แยกราชประสงค์ว่า เป็นเรื่องของประชาธิปไตย หากคิดว่า ทำแล้วถูกต้องเป็นประชาธิปไตยก็ว่ากันไป ซึ่งประชาชนจะกลั่นกรองเองว่าถูกผิดหรือไม่ ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดูความเรียบร้อย ทหารไม่เกี่ยว ซึ่งทุกอย่างเป็นการเรียนรู้และเป็นบทเรียนมาโดยตลอด อะไรดีก็ทำ อะไรไม่ดีก็อย่าทำ เพราะมีแต่ความเสียใจ ไม่มีใครได้เลย มีแต่คนเสียและประเทศชาติเสียหายมากที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยช่วงเปิดภาคเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เรามีแผนดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว ปัจจุบันใช้กำลังทั้งหมด 6 พันนาย ดูแลโรงเรียน 400 โรงเรียน แต่มีปัญหาอยู่ 2 ประการ คือ 1. การดูแลครูกับนักเรียน เป็นการทำงานในเชิงรับ ซึ่งมีเวลาที่ไม่แน่นอน เพราะผู้ก่อเหตุสามารถก่อเหตุได้ตลอดเวลา 2. ประชาชนบางส่วนต้องการดูแลตัวเอง ไม่ต้องการอยู่ใกล้กับเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะครู เพราะเขามองว่าจะกลายเป็นเป้าและไม่ปลอดภัย ซึ่งทั้งหมดนี้ตนไม่อยากโทษใคร เราพยายามดูแลให้ดีที่สุด เราก็พยายามดูแลให้ดีที่สุด ซึ่งต้องขอความร่วมมือด้วย เพราะการดูแลครูชุดหนึ่งต้องใช้กำลังพลประมาณ 12 นาย หากมีการแยกออกนอกเส้นทางเพียงคนเดียวก็ต้องแยกกำลังทหารไปคุ้มกันอีก และการดูแลของทหารก็จะทำได้จำกัด ซึ่งอยากให้มองภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย ต้องยอมรับว่าเป้าหมายของผู้ก่อเหตุมีมาก และส่วนใหญ่ก็เป็นปัญหาในเชิงรับ เราก็ต้องทำความเข้าใจกันไป
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามนโยบาย โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งนี้ ในส่วนของ กอ.รมน. และศอ.บต. ที่มีกฎหมายดูแลคนละฉบับ แต่ก็ต้องดำเนินการให้สองส่วนขับเคลื่อนไปด้วยกัน นอกจากนี้ เราจะนำแผนงานทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันของทุกกระทรวง ทบวงกรมที่เกี่ยวข้องกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาดูและจัดกลุ่มให้ตรงกับยุทธศาสตร์เพื่อให้แผนงานและโครงการสอดคล้องกัน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนของการพัฒนาทั้งในด้านการศึกษา โรงเรียน และในเชิงอัตลักษณ์ เราไม่ได้ต้องการที่จะไปฝืนเขา เพียงแต่ให้เขาเคารพกติกาของประเทศไทยเช่นเดียวกัน เช่นภาษาไทยที่จะต้องมีการเรียนรู้ด้วย รวมถึงวิชาสามัญที่จะต้องควบคู่ไปกับวิชาทางศาสนา สำหรับในส่วนของโรงเรียนของรัฐตนได้เสนอว่าอยากให้เป็นในลักษณะโรงเรียนกินนอน เพราะคนในภาคใต้มีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง และมีความยากจน รวมถึงเสนอให้มีการจัดทุนการศึกษา คล้ายกับโรงเรียนปอเนาะ เพื่อให้คู่ขนานกันไปและจะมีการสอนทั้งในส่วนของศาสนาและวิชาสามัญ ซึ่งจะเป็นไปในลักษณะของโรงเรียนสงเคราะห์หรือโรงเรียนประชานุเคราะห์ ตนได้เสนอไปแล้วและคิดว่าในวันที่ 17 พ.ค.นี้จะมีการประชุมอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะทราบผล