โฆษกเพื่อไทยยืนยันสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กดดันนายกฯ ให้ปรับ ครม.ไม่ได้ เชื่อในภาวะตัวผู้นำ แต่อาจดึงบตัวร่วมแถลงผลงานรัฐบาล โว รบ.แก้ปัญหาของแพงถูกทาง เย้ย “การุณ” เป็นนักกฎหมายมาก่อน น่าจะเคารพกฎหมายมากกว่านี้ เหน็บอย่าใช้กฎหมู่
วันนี้ (13 พ.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้จะหารือถึงกรอบเวลาในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะขอความร่วมมือจากฝ่ายค้านว่าอยากให้การอภิปรายดังกล่าวเสร็จสิ้นภายในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เพื่อให้ระยะเวลาที่เหลือได้พิจารณากฎหมายในส่วนที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จสิ้น และเชื่อว่ารัฐบาลมีความพร้อมในการตอบคำถาม หากฝ่ายค้านมีการยื่นกระทู้ถามสด
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า สมาชิกบ้านเลขที่ 111 มีการกดดันให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำการปรับคณะรัฐมนตรี หลังจากที่ถูกปลดล็อกทางการเมืองในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้นั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า กระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่มีใครสามารถที่จะกดดันนายกรัฐมนตรีได้ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นตัวของตัวเองและมีภาวะผู้นำทางการเมืองสูง ซึ่งหากจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีจริงก็คงเป็นเรื่องปกติ แต่ยังไม่ใช่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะมีการแถลงผลงานรัฐบาลครบ 1 ปีนั้น อาจมีการพิจารณานำสมาชิกบ้านเลขที่ 111 มาร่วมงานด้วย เพราะเชื่อว่าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เป็นผู้มีคุณภาพ
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ยังระบุว่า จากการตรวจสอบของคณะทำงานพรรคเพื่อไทยพบว่า กรณีการต่อสัญญาของในโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสของกรุงเทพมหานครนั้น มีความผิดปกติในส่วนของรายชื่อคณะกรรมการในชุดที่ร่วมกันทำโครงการดังกล่าว โดยพบว่าผู้ที่ร่วมทำโครงการนั้นมีนามสกุลเวชชาชีวะ และไกรฤกษ์ ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกันกับ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทยจึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการทุจริตร่วมกัน พร้อมกันนี้ในวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม จะยื่นเรื่องให้กับคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาฯ ได้ดำเนการตรวจสอบเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยได้เปิดโครงการ “สหกรณ์ไทยเพื่อคนไทย-ถูกทั้งแผ่นดิน-สินค้าสหกรณ์ ราคายุติธรรม” เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในการลดค่าครองชีพสูงนั้น รัฐบาลได้ดำเนินการมาถูกทางแล้ว ซึ่งพี่น้องประชาชนก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี และรัฐบาลเองก็สามารถให้ความมั่นใจได้ว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนไม่ได้ละเลยและได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นว่า หากรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง พี่น้องประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเข้าจับกุมนายการุณ ใสงาม แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามหมายจับในข้อหายึดสนามบินสุวรรณภูมิ โดยระบุว่านายการุณนั้นเคยเป็นนักกฎหมายมาก่อน น่าจะทราบและเคารพกฎหมายมากกว่านี้ และการกระทำของนายการุณนั้น ถือว่าไม่ให้เกียรติกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการนำมวลชนมาปิดล้อมและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม นายพร้อมพงศ์ยังตั้งข้อสังเกตว่า การลงเล่นการเมืองของนายการุณที่ผ่านมานั้นอาจเป็นแค่เกมทางการเมืองที่ใช้เพื่อต้องการล้มรัฐบาลชุดที่ผ่านมาก็เป็นได้
