“สุชาติ” แจงแจกแท็บเล็ต นักเรียน ป.1 โวปฏิวัติการศึกษาไทย “อนุดิษฐ์” ยืนยันจะตามควบคุมการใช้ให้เหมาะสม ชี้ช่วยสร้างอีคิว โซเซียลสีขาว
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ร่วมกันชี้แจงถึงโครงการ วันแท็บเล็ตพีซีเปอร์ชายด์ ที่จะนำแท็บเล็ตมาเป็นอุปกรณ์เสริมการเรียนการสอนในนักเรียนระดับชั้นประถม ปีที่ 1 ผ่านรายการ รายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน”
นายสุชาติกล่าวว่า โครงการนี้จะทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้เร็วขึ้น ซึ่งลำดับต่อไปอาจมีการพัฒนาการเรียนการสอนในเด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้น ประถมปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 เบื้องต้นได้มีการอบรมครู อาจารย์ต่อการนำแท็บเล็ตมาสอนนักเรียนไปแล้ว 54,900 คน อย่างไรก็ตามการเรียนด้วยหนังสือ ตำราทั่วไป ยังคู่ขนานไปด้วยกัน นักเรียนยังต้องเขียน ต้องพูด ขณะที่ชั่วโมงพลศึกษาก็ยังเป็นไปในรูปแบบเดิม โครงการวันแท็บเล็ตพีซีเปอร์ชายด์ถือเป็นการปฏิวัติการเรียนการสอนของไทย โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้ใส่เนื้อหาหลักลงไปในแท็บเล็ต แล้วทางโรงเรียนสถานศึกษาใส่เนื้อหารอง เป็นไปในลักษณะของการแข่งขันกันด้วย จากการไปสำรวจเบื้องต้นทำให้ครูและนักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนการ สอนมากขึ้น และต่อๆ ไปก็จะมีหน่วยงานที่เป็นกลางเข้ามาวัดระดับความสำเร็จในการใช้แท็บเล็ตดัง กล่าว
ส่วน น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า แท็บเล็ตที่นำมาใช้มีขนาดจอ 7 นิ้ว ค่อนข้างเล็ก เนื่องจากมีความประสงค์ให้ใช้งานสะดวกเหมาะกับเด็กนักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 กระนั้นต้องบอกว่า จิ๋วแต่แจ๋ว สเป็กเครื่องมีความเร็วสูง 1.2 กิกะไบต์ ความจุ 1 กิกะไบต์ ความจุของถ่าน 3,600 มิลลิแอมป์ ระยะการใช้งานค่อนข้างนาน ที่น่าสนใจคือนำระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.03 ซึ่งจะทำให้การพัฒนาเนื้อหาเปิดกว้าง ภาครัฐ ภาคเอกชน สามารถพัฒนาได้อย่างสะดวก
ในส่วนของการเข้าเว็บไซต์ หรือเล่นเกมที่ไม่เหมาะสมนั้น ทางกระทรวงไอซีทีจะมีส่วนเข้ามาควบคุม กำหนดพื้นที่การเรียนรู้ให้เหมาะสม ไม่ออกนอกลู่นอกทาง สำหรับการแจกจ่ายให้ถึงมือเด็กนักเรียนนั้น เราได้ทำการเซ็นสัญญาซื้อขายไปในวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยภายใน 60 วัน ล็อตแรก 4 แสนเครื่องจะมาถึงประเทศไทย โดยมีกระบวนการตรวจรับ ก่อนที่บริษัทไปรษณีย์ไทยจะนำไปกระจายเข้าสู่เขตการศึกษาในพื้นที่ ส่งมอบโรงเรียนต่อไป สินค้าที่สิ่งซื้อมาทั้งหมด 1 ล้านเครื่อง จะทยอยส่งระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค. ก็จะดำเนินการเป็นช่วงๆ ไป
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า สำหรับด้านความพร้อมของโรงเรียนในส่วนของระบบอินเทอร์เน็ต ไว-ไฟนั้น เชื่อว่าวันนี้เกือบทุกโรงเรียนมีอินเตอร์เน็ตใช้ หลายโรงเรียนที่ห่างไกลเราก็มีระบบอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม สิ่งที่กะทรวงไอซีทีต้องทำคือเข้าไปขยายสัญญาณเหล่านี้ให้กว้างขวาง และดีขึ้น ในส่วนของอายุการใช้งานแท็บเล็ตนั้น เชื่อว่าน่าจะเกิน 3 ปี เพราะคงต้องมีผู้ปกครองคอยควบคุมดูแลการใช้ ไม่ได้ใช้ตลอดเวลาเหมือนคนวัยทำงาน
สำหรับการดูแลรักษาซ่อมบำรุงนั้นจะมีระบบการนำเครื่องมาทดแทนระหว่างซ่อมภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และมีการเปิดศูนย์ดูแลประมาณ 30 แห่ง ทั้งนี้ถ้าหากผู้ปกครองอยากจะมีแท็บเล็ตลักษณะนี้เพื่อนำไปใช้ศึกษาพร้อมกับ เด็กนักเรียนก็สามารถโหลดข้อมูลไปได้ เพราะเราเปิดกว้างในเรื่องของการศึกษา ตรงส่วนนี้คงจะมีการพัฒนาต่อไปในภาคการเรียนที่ 2 พร้อมกันนี้แท็บเล็ตจะเป็นตัวช่วยเสริมสร้างระบบอีคิว การเข้าไปในโซเชียลเน็ตเวิร์กสีขาว เน้นเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ผู้ใหญ่สามารถปลูกฝังลงไปในตัวเด็กๆ ได้ด้วย ทั้งนี้ได้มีการติดตั้งระบบ จีพีเอส ในตัวแท็บเล็ต เพื่อเป็นการติดตามตรวจสอบ ควบคุมการใช้งาน เนื้อหาต่างๆ และสามารถติดตามเครื่องได้ว่าอยู่ที่ไหน ส่วนเรื่องของการโจรกรรม ขโมยเครื่องนั้น คิดว่าด้วยราคาขนาดนี้ คงไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก คงไม่คุ้มกันถ้าจะไปทำอะไรแบบนั้น