ผู้นำฝ่ายค้าน เผยหลังแจง กมธ.สอบทุจริตวุฒิฯ หวั่น รัฐอุบแผนจัดการคดีเขตแดนไทย- กัมพูชาที่ศาลโลก จี้ รบ.แสดงความจริงจังต่อสู้เรื่องเขตแดนกัมพูชาพร้อมแสดงความรับผิดชอบหากมีผลกระทบต่ออธิปไตย และอย่ากล่าวโทษรัฐบาลในอดีต
วันนี้ (10 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุมอนุกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาลของวุฒิสภาฯ ว่า กมธ.กำลังพิจารณาเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และจะสอบถามนโยบายและแนวทางต่างๆ เป็นอย่างไร โดยการพุดคุยค่อนข้างจะกว้างขวางตั้งแต่ในเรื่องของข้อกฎหมายเกี่ยวกับ เอ็มโอยู ไปจนถึงการปฏิบัติจริงตามแนวชายแดน อาทิ เวลาที่มีการรุกล้ำเข้ามาตามเขตชายแดน หรือการปลูกสร้างสิ่งต่างๆ ที่มีการรุกล้ำเข้ามา อีกทั้งตนพยายามชี้ให้เห็นว่าแนวทางต่างๆ อาจะเห็นต่างในเรื่องของแนวคิดในเรื่องของข้อกฎหมายหรือจะต้องมีการต่อสู้กันอย่างไร แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลโดยเฉพาะรัฐบาลที่แล้วทุกหน่วยงานจริงใจและตั้งใจในการแก้ปัญหา ส่วนปัญหาปัจจุบันน่าจะอยู่ที่การพิจารณาคดีที่ศาลโลกมากกว่า
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันว่าถ้าเจ้าหน้าที่หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ทำหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยจะต้องมีการดำเนินการ แต่ขณะเดียวกันต้องเข้าใจความละเอียดอ่อนของสถานการณ์ชายแดนขณะนี้ ซึ่งอาจจะถูกหยิบประเด็นนี้ไปใช้ในเวทีระหว่างประเทศ ส่วนการทำหน้าที่จะต้องคำนึงถึงในส่วนนี้ด้วย “สิ่งที่ผมกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเรื่องการต่อสู้คดีในศาลโลกเพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ได้เปิดเผยข้อมูล เพราะฉะนั้นเราก็จะไม่ทราบว่าแนวทางการต่อสู้จะเป็นอย่างไร” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าท่าทีของทั้งรัฐบาลที่มีต่อสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เหมือนว่ามีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นจะส่งผลกระทบในกรณีนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้ามีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นก็ควรที่จะนำมาเป็นประโยชน์ให้กับประเทศ แต่ขณะนี้เราก็ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงในท่าทีของรัฐบาลกัมพูชาต่อกรณีเขตแดน ถามต่อว่าจากกรณีนี้จะทำให้ไทยเสียเปรียบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยู่ที่การต่อสู้และการปฏิบัติมากกว่า
เมื่อถามอีกว่า มั่นใจแค่ไหนต่อท่าทีการแก้ไขปัญหานี้ของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าคนไทยทุกคนคงเป็นห่วงอยากให้รัฐบาลชัดเจนว่าจะต่อสู้เต็มที่ ซึ่งรัฐบาลที่แล้วก็ทำเต็มที่จนกระทั่งกัมพูชาไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ส่วนเรื่องการเปิดเผยข้อมูลในเรื่องนี้นั้น ตนเห็นว่าหากจะเปิดเผยทั้งหมดคงจะกระทำไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องแสดงถึงความจริงจังและความพร้อมในการที่จะรับผิดชอบกับผลกระทบที่จะตามมา
เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ที่จะตกเป็นแพะในเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปเกี่ยวข้องกับรัฐบาลอื่น เพราะรัฐบาลนี้เป็นผู้ดำเนินการในการต่อสู้
