xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทบ.ต้อนรับ 90 เยาวชนปัตตานี ขอโทษสิ่งพลาดในอดีต ยันไม่อยากรบกับคนในชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (แฟ้มภาพ)
ผู้บัญชาการทหารบกต้อนรับ 90 เยาวชนปัตตานี ยันไม่เคยมองใครเป็นศัตรู ย้ำพยายามแก้ปัญหาแบบสันติวิธี เผยส่งทหารลงใต้หวังคุ้มครองประชาชน วอนไว้วางใจกัน เชื่อมั่นกองทัพ พร้อมขอโทษเรื่องผิดพลาดในอดีต ระบุไม่อยากรบกับคนในชาติ ชี้ประเทศไม่สงบก็เดินหน้าไม่ได้ สัญญาพัฒนา 5 จังหวัดทัดเทียมพื้นที่อื่น

วันนี้ (10 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานต้อนรับผู้นำและเยาวชนจาก จ.ปัตตานี จำนวน 90 คนในโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำเยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้รู้สึกยินดีที่เราได้มีโครงการร่วมกัน มีเยาวชนทั้งไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งวันนี้เราไม่ได้มีปัญหาอะไร และสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตจนถึงปัจจุบันเป็นเหมือนเมฆหมอกที่เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น แต่เรามองทุกคนล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น เราไม่เคยมองเป็นศัตรู ไม่ว่าจะศาสนาใดก็ตาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รับสั่งเสมอว่าคนมุสลิมเป็นคนน่ารัก และเป็นคนมีความรู้ความสามารถในการตัดเย็บเสื้อผ้า รวมถึงการปักผ้า แสดงให้เห็นถึงความมีระเบียบ และเป็นคนที่มีจิตใจแน่วแน่ในการปักผ้าให้เหมือนของจริง ซึ่งพระองค์ท่านพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการตอบแทนผลผลิตให้แก่ประชาชน แม้ว่าพระองค์ท่านจะไม่ได้เสด็จฯ ลงพื้นที่หลายปีแล้วก็ตาม การแก้ไขปัญหาเราดำเนินการถูกทางแล้ว โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาแบบสันติวิธี หากใช้ความรุนแรงก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทหารที่ลงพื้นที่ก็ไปคุ้มครองปกป้องให้ประชาชนปลอดภัย เพราะมีคนไม่หวังดีทำร้ายประชาชนอยู่ ทหารไม่ได้ไปต่อสู้หรือรบกับใคร แต่จะต้องหาวิธีหันหน้าและแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อให้เกิดความสงบและสันติสุขอย่างยั่งยืน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สิ่งแรกที่เราต้องให้กัน คือ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และมีความเชื่อมั่นต่อกัน กองทัพบกเป็นกองทัพของประเทศชาติ ในการดูแลชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงประชาชนให้เกิดความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หากในอดีตมีความผิดพลาด ตนก็ขอโทษและขออภัย ทั้งนี้ หากสถานการณ์ในพื้นที่มีการสู้รบและกลุ่มก่อความไม่สงบหลบซ่อนอยู่ ครอบครัวของพวกท่านก็จะอยู่อย่างไม่เป็นสุข เพราะท่านก็จะไม่สามารถกลับมาอยู่กับครอบครัวท่านได้

ดังนั้น อยากให้มาพูดคุยและมาสู้กันในสิ่งที่ถูกต้อง ทหารไม่ต้องการที่จะรบกับคนในชาติด้วยกันเอง ไม่มีทหารคนใดที่อยากทำให้ประชาชนเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว พยายามทำทุกย่างให้ดีขึ้น แม้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลานานก็ตาม กลุ่มก่อความไม่สงบพยายามใช้เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในอดีตเพื่อปลูกฝังและปลุกระดม ดังนั้น การที่ทำให้บุคคลเหล่านี้เข้าใจต้องใช้เวลานาน เนื่องจากปลูกฝังมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ตนไม่อยากท้าทายซึ่งกันและกันว่าใครจะแพ้หรือชนะ แต่ตนมองว่าคนที่จะแพ้ที่สุดคือประเทศชาติ และต่อไปก็คือประชาชนทุกคน หากเหตุการณ์ยังไม่สงบ บ้านเมืองก็ไปข้างหน้าไม่ได้ ปัจจุบันโลกมันกว้างและมีหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป เราต้องยอมรับกฎกติกาและต้องนำปัญหาในอดีตมาคิดดูว่าหากเราต้องสู้รบกันต่อไปเราจะได้อะไรขึ้นบ้าง ตนคิดว่ามีแต่เสีย โดยเฉพาะประเทศชาติที่จะต้องเสียโอกาส ดังนั้นจะต้องใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดความถูกต้อง และหาหนทางออกให้ได้ในทุกมิติ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันทหารมีทั้งหมดจำนวน 38 ค่ายจากทุกกองทัพภาค เพื่อเข้าไปรวมพลังในการแก้ไขปัญหา ซึ่งการลงไปต้องมีการเตรียมความพร้อมและเรียนรู้สถานการณ์ในพื้นที่ และดูแลประชาชนจำนวน 2 ล้านคนให้เกิดความปลอดภัยในพื้นที่ 37 อำเภอ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา ตนเห็นว่าเหตุการณ์จะเบาได้นั้น ประชาชนมุสลิมในพื้นที่สามารถพูดคุยกันเองได้รู้เรื่องมากกว่า และเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎ กติกา ทั้งนี้ ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภาคใต้มี 3 ส่วน ได้แก่ 1. เจ้าหน้าที่ 2. ประชาชน และ 3. ผู้ก่อเหตุความรุนแรง

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับไปอยู่อย่างสันติสุขเหมือนเดิม ทั้งนี้สัญญาว่าพวกเราทุกคนจะผลักดันทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาให้แก่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เจริญเติบโตทัดเทียมกับจังหวัดอื่นๆ สิ่งที่เป็นปัญหาวันนี้คือ ความยากจน และการเข้าถึงทรัพยากรไม่ทั่วถึง แต่ความเป็นคนเท่าเทียมกัน ดังนั้นต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ฝากอวยพรให้ผู้นำและเยาวชนที่เดินทางมาในวันนี้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยปลอดภัย และดีใจทีได้มีการเปิดช่องทางในการสื่อสารขึ้น โดยได้พบปะกันในวันนี้ เพราะจะทำให้เห็นว่าในการแก้ไขปัญหาจะต้องก้าวไปสู่จุดที่ความรุนแรงลดลง
กำลังโหลดความคิดเห็น