“ยิ่งลักษณ์” พลิกวิกฤตเป็นโอกาส เบรก รมช.คลังชงขึ้นภาษีสรรพสามิต ย้ำอย่าฉวยโอกาสช่วงราคาน้ำมันโลกลงหากินกับ ปชช. เผย ครม.ถกหาทางออกตอบโจทย์สังคม หลังมีข่าวขอขึ้นราคารถไฟใต้ดิน เห็นพ้องให้ ก.คมนาคมถอนเรื่อง อ้างรัฐบาลไม่ต้องการให้ ปชช.แบกภาระเพิ่ม
วันที่ 8 พ.ค. แหล่งข่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวว่า ได้มีการหารือกันถึงราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง โดยนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ได้เสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าในช่วงที่ราคาน้ำมันถูกควรจะเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นหรือไม่ ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธสวนไปทันทีหลายครั้งว่า ไม่ พร้อมทั้งชี้แจงว่าอะไรก็ตามที่ช่วยลดภาระประชาชนเราต้องมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนให้เต็มที่เสียก่อน จะมาฉวยจังหวะตอนราคาน้ำมันโลกลดลง เก็บภาษีสรรพสามิตไม่ได้
นายอนุสรณ์กล่าวว่า ราคาน้ำมันโลกยิ่งถูกลงเท่าไรก็ตาม ประชาชนคนไทยจะได้ใช้น้ำมันราคาถูกอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ไม่ใช่แค่ราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลง ราคาก๊าซหุงต้ม เอ็นจีวี แอลพีจี ที่รัฐบาลเคยมีมาตรการมาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่สมัยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็น รมว.พลังงาน ให้ไปดูว่าอันไหนชะลอได้ต้องชะลอ อันใดยังไม่จำเป็นต้องขึ้นราคาก็ไม่ต้องขึ้นราคา โดยให้กลับไปทบทวนโครงสร้างราคาพลังงานทั้งหมด แต่ว่าในการลดภาระของประชาชนนั้น จะต้องไม่กระทบต่อภาคการบริโภคที่แท้จริง โดยจะต้องมีมาตรการควบคู่กันด้วย ของอะไรที่ถูกก็ให้ถูกไป ไม่ต้องไปเก็บภาษี ขณะเดียวกันก็ต้องรณรงค์ส่งเสริมการใช้บริการรถสาธารณะมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ ที่ประชุม ครม.ได้เปิดเผยการพิจารณาวาระการปรับราคารถไฟฟ้าใต้ดิน จากเดิมที่กระทรวงคมนาคมเตรียมจะเสนอให้ขึ้น 1 บาทนั้น รัฐมนตรีหลายคนในที่ประชุม ครม.ต่างเห็นแย้งว่า แม้จะขึ้นเพียงราคาเพียง 1 บาทก็จริง แต่รัฐบาลเองยังไม่อยากให้มีการปรับราคาในช่วงนี้ เพราะประชาชนกำลังแบกภาระค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่แล้ว จึงให้กระทรวงคมนาคมกลับไปพิจารณาใหม่ ทำให้ในที่ประชุม ครม.ต้องมีการหารือกันว่าหากจะไม่พิจารณาปรับราคาในตอนนี้จะตอบสังคมอย่างไร และจะใช้คำว่าอะไร ระหว่างขอกลับนำไปทบทวน หรือจะใช้แบบรุนแรง คือขอถอนเรื่องไปเลย ซึ่งนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม.ได้แสดงความคิดเห็นว่า ไม่ว่านายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม จะออกช่องใดก็ซวยทั้งคู่ ดังนั้น ครม.จึงเห็นตรงกันว่าให้ใช้คำว่า ขอถอนเรื่อง