นายกฯ สั่งตั้ง คกก.ไตรภาคี ตรวจสอบสภาพอากาศ เหตุบึ้มมาบตาพุด

นายกฯ ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตและที่ได้รับบาดเจ็บ เหตุโรงงานนิคมมาบตาพุดระเบิด สั่งตั้ง คกก.ไตรภาคี ก.ทรัพย์ร่วมภาคประชาชนดูสภาพอากาศ พบผิดปกติรายงานตรงรัฐบาล พร้อมสั่ง มท.ทบทวนแผนรับมือ ซ้อมแผนอพยพ รุดเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ กำชับบำบัดน้ำใช้ดับเพลิงก่อนระบายทิ้ง

วันนี้ ( 6 พ.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกรวงมหาดไทย และหม่อมราชวงศ์พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางถึงศูนย์ราชการจังหวัดระยอง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ส.ส. ในพื้นที่
ข้าราชการ ตัวแทนภาครัฐและเอกชนต้อนรับ

จากนั้นนายกฯ และคณะเดินทางต่อไปที่โรงพยาบาลมาบตาพุด เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิด และเพลิงไหม้ โรงงานกรุงเทพ ซินธิติกส์ (BST) ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ใกล้เคียง ซึ่งนายกฯ ได้สอบถามอาการผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้กำลังใจ รวมถึงมอบกระเช้าของขวัญ และเงิน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ พร้อมยืนยันจะรักษาอย่างดีที่สุด

รายงานล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 128 คน ส่วนใหญ่บาดเจ็บด้วยอาการแสบร้อนตามผิวหนัง และวิงเวียนศีรษะ ซึ่งยังพักรักษาตัว 24 คน อาการสาหัส 4 คน โดยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาบตาพุด 5 คน ส่วนผู้ที่บาดเจ็บสาหัส ถูกส่งไปรักษาพยาบาลต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ระยองและโรงพยาบาลในพื้นที่ เช่นโรงพยาบาลกรุงเทพ-ระยอง โรงพยาบาลระยอง และมีผู้กลับบ้านแล้ว 101 คน

จากนั้นนายกฯ ได้เดินทางต่อไปยังสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อรับฟังรายงาน และประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรม สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขสถานการณ์ รับฟังปัญหาของนิคม และเตรียมวางแผนป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมสำหรับการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางบริษัทยืนยันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและค่าชดเชยทั้งในส่วนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ทั้งพนักงาน และชุมชนที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้สั่งให้บริษัทหยุดการผลิตยางสังเคราะห์ทันที เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งประเมินความเสียหายที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ กนอ. ได้สั่งให้ติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยจัดส่งรถตรวจวัดคุณภาพอากาศ ในชุมชน รวมถึงให้สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศด้วยระบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดส่งทีมลาดตระเวนโดยรอบชุมชนทุก 1 ชั่วโมง ซึ่งข้อมูลคุณภาพอากาศล่าสุด พบว่า บรรยากาศบริเวณนิคมฯ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนน้ำที่ใช้ในการดับเพลิง ที่พบว่ามีสารปนเปื้อนทาง กนอ. สั่งไม่ให้มีการระบายออกสู่สาธารณะ โดยให้นำน้ำดังกล่าวกลับเข้าสู่ระบบบำบัดภายในโรงงาน ก่อนนำไปตรวจวัดคุณภาพน้ำต่อไป

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แถลงพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังประชุมร่วมกันเพื่อติดตามสถานการณ์ระเบิด และเพลิงไหม้ โรงงานกรุงเทพ ซินธิติกส์ (BST) ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยนายกฯ กล่าวว่า สภาพอากาศของนิคมฯ และชุมชนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นทางนิคมฯ ได้ดูแลผู้เสียชีวิต
ผู้ป่วย ทั้งชดเชยค่าเสียหายของนิคม และบริษัทอย่างเต็มที่ ขณะที่รัฐบาลแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นว่าเบื้องต้น ทุกหน่วยงานรับมือต่อสถานการณ์ได้ดี แต่ยอมรับต้องปรับเรื่องข้อมูลข่าวสารที่เชื่อมจากนิคมฯ ไปยังประชาชน

นายกฯ กล่าวยืนยันว่า ต้องวางแผนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ และเพื่อให้ประชาชนมั่นใจ ว่าจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการในลักษณะไตรภาคี มอบกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นิคมอุตสาหกรรมฯ และภาคประชาชน ขึ้นมาทำงานและไปร่วมกันดูแลสภาพอากาศในพื้นที่ดังกล่าว และหากมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น จะต้องรายงานโดยตรงต่อรัฐบาล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกัน และให้กระทรวงสาธารณสุข ตั้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน สำรวจรอบชุมชนเพื่อให้มั่นใจว่า ประชาชนจะได้รับอากาศบริสุทธิ์ไม่ตกค้าง โดยจะนำเรื่องดังกล่าวไปประเมินร่วมกับผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และจะประเมินทุก 3 เดือน โดยจะประเมินสารโทลูอีน และสารที่ติดไฟง่ายทั้งหมดโดยจะบูรณาการแผนฉุกเฉิน ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและชุมชนในพื้นที่ โดยได้สั่งการให้นาย
ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปร่วมทบทวนแผนรับมือโดยให้ศาลากลางจังหวัดประมวลข้อมูลที่ถูกต้องไปยังประชาชน ซึ่งเรื่องทั้งหมดจะเป็นหลักสะท้อนการทำงานของกระทรวงมหาดไทยด้วย ทั้งนี้ ในระดับพื้นที่จะต้องประสานข้อมูลกับทางจังหวัดโดยอยากเห็นการบูรณาการ โดยต้องมีการวัดคุณภาพอากาศ และปรับปรุงเรื่องการเตือนภัยให้ประชาชนรับทราบเพื่อป้องกันความสับสน และต้องจัดกิจกรรมรับมือสถานการณ์ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม บริษัทต่างๆ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ต้องเคร่งครัดซ้อมแผนรับมือเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง

นายกฯ ยังกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมขอเป็นกำลังใจให้ชาวระยอง และจะนำเรื่องนี้รายงานต่อคณะรัฐมนตรี พร้อมจะรับข้อมูลไปบูรณการงานของรัฐบาลเต็มที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกฯ ได้ไปดูระบบศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งพบว่าอากาศปกติ