xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เปิดตัวผู้สมัครซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ 7 พ.ค.ชี้ “ปู” ไม่ยอมรับของแพงจริงก็แก้ไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
“อลงกรณ์” เผย “ศิริวรรณ-เทอดพงษ์” ส่งชื่อผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ให้กรรมการคัดเลือกแล้ว ชูคุณสมบัติครบ เปิดตัวจันทร์นี้ ระบุ ที่ประชุมเร่งปั้นพิมพ์เขียวประเทศให้เสร็จสิงหา ชี้ หากนายกฯ ไม่ยอมรับความจริงของแพงก็แก้ไม่ได้ จี้ อย่าฟังข้อมูลผักชีโรยหน้าจากคลัง, พาณิชย์ ชี้ลอยตัวน้ำมัน, ก๊าซ ยิ่งเงินเฟ้อ

วันนี้ (4 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคภาคกลาง เปิดเผยว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคได้พิจารณาคัดเลือกผู้สมัครในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 ซึ่ง นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าภาคเหนือ และ นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ดูแลภาคเหนือให้เสนอรายชื่อให้คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครในนามพรรคที่มี นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้คัดเลือกรายชื่อให้ กก.บห.พรรคพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมบุคคลที่จะลงสมัครเลือกตั้งซ่อมในนามพรรค ซึ่งพบว่า มีคุณสมบัติครบถ้วน คาดว่า จะได้รับโอกาสจากชาวจังหวัดเชียงใหม่เขต 3 แต่ในชั้นนี้ยังขอปิดชื่อไว้ก่อนโดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 7 พ.ค.โดย นางศิริวรรณ และผู้ใหญ่ในพรรคจะเปิดตัวในวันรับสมัครในคราวเดียวกัน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคพร้อมกันทั้ง 5 ภาค ตาม 15 ยุทธศาสตร์หลักที่ได้ประกาศไว้ในการประชุมใหญสามัญประจำปี เช่น การเปิดเวทีรับฟังประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อร่วมออกแบบพิมพ์เขียวประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม เพราะที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปแล้วว่า การเมืองเป็นเพียงเรื่องของคนบางกลุ่มบางพวกจึงจำเป็นต้องปรับ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้นในการวางพิมพ์เขียว และเพื่อพัฒนาประเทศไทยในอนาคตข้างหน้าในเวทีสากล อย่างน้อยพิมพ์เขียวประเทศไทยต้องแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบการรายงานของปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง ค่าครองชีพที่สูงขึ้นจาก ครม.เงา พบว่า เป็นปัญหาใหญ่ซึ่งหากนายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาลไม่ยอมรับความเป็นจริงในเรื่องนี้ก็จะมองไม่เห็นปัญหาที่แท้จริง และแก้ไขปัญหาไม่ได้ ที่ประชุมเห็นว่า นายกฯไม่ควรรับฟังข้อมูลดัชนีผักชีโรยหน้า ทั้งจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งควรเอาข้อมูลข้อเท็จจริงของค่าครองชีพมาใช้เพื่อการแก้ไขปัญหาของแพง หากยังใช้ดัชนีผักชีโรยหน้าประชาชนก็เดือดร้อนต่อไป เพราะวันแรงงานที่ผ่านมา พี่น้องแรงงานก็สะท้อนแล้วว่าค่าครองชีพที่ได้รับไม่เพียงพอชักหน้าไม่ถึงหลัง การที่นายกฯระบุว่า เป็นเพียงแค่ความรู้สึกว่าของแพงถือเป็นการซ้ำเติมความรู้สึกของประชาชนเพราะที่ผ่านมาฝ่ายค้านได้ตั้งกระทู้สดและกระทู้แห้งหารือแนะนำรัฐบาลมาโดนตลอดว่ารัฐบาลผิดพลาดในการลอยตัวพลังงานทั้งน้ำมัน และแก๊สทำให้ของแพงเกิดเงินเฟ้อมากขึ้นกระทบทุกระบบ ซึ่งจะเป็นข้ออ้างของการขึ้นราคาสินค้าที่เกินต้นทุนความเป็นจริงมากหลายเท่าหากรัฐบาลยังไม่ยอมรับความผิดพลาดและความเป็นจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น