xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ชี้ พท.ขวางถ่ายทอดสดไม่กระทบถก รธน. ติงอย่าปิดหูปิดตา ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (ภาพจากแฟ้ม)
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันการที่พรรคเพื่อไทยขัดขวางการถ่ายทอดสดประชุมสภาแก้รัฐธรรมนูญช่อง 11 ไม่กระทบการทำหน้าที่อภิปรายเพราะไม่หวังออกทีวี แต่ไม่ควรปิดหูปิดตาประชาชน ค้านถกรัฐธรรมนูญสัปดาห์ละ 3 วัน ชี้ยังมีวาระอื่นที่สำคัญอีกมาก ไม่รู้ลากยาวถึงมิถุนายนหรือไม่ ยินดีล่วงหน้าบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษแบน

วันนี้ (1 พ.ค.) ที่โรงแรมอิมพีเรียลควีนส์ปาร์ค ถนนสุขุมวิท นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะให้งดการถ่ายทอดสดการประชุมรัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เรื่องการถ่ายทอดสดเป็นอำนาจหน้าที่ของประธานโดยตรง ถ้าเป็นสมควรว่าต้องมีการถ่ายทอดสดก็ดำเนินการได้ทันที และตนคิดว่าไม่ควรจำกัดสิทธิของประชาชนในการรับรู้ เพราะเป็นการแก้ไขกฎหมายสูงสุด ถ้ารัฐบาลต้องการให้ประชาชนตื่นตัว สนใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รู้ว่ารัฐสภากำลังพิจารณากันอย่างไรก็ต้องถ่ายทอดสด ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะมีการถ่ายทอดหรือไม่ ไม่มีผลต่อการอภิปรายของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเราจะยืนยันตามที่ได้มีการสงวนคำแปรญัตติเอาไว้ แต่คงจะมีผลต่อฝ่ายรัฐบาลที่ต้องการประท้วงออกทีวี ดังนั้น หากประธานสภาเห็นว่าควรถ่ายทอดสดสามารถดำเนินการได้ ไม่ควรโยนให้วิป 3 ฝ่ายเจรจากัน เพราะมีอำนาจหน้าที่อยู่แล้วในการเผยแพร่การประชุมสภาในการขอความร่วมมือไปยังช่อง 11 จะโยนว่าไม่ใช่หน้าที่ตัวเองไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่มีการประชุมจะเห็นว่าประธานแจ้งต่อที่ประชุมว่าจะถ่ายทอดหรือไม่

“พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าอภิปราย ดังนั้น หากคิดว่าไม่ถ่ายทอดสดแล้วจะทำให้ใช้สิทธิน้อยลงคงไม่ใช่ เพราะพรรคจะทำหน้าที่ โดยที่ไม่หวังจะออกทีวี แต่คิดว่าเป็นสิทธิของประชาชนที่ควรรับทราบ เพราะกำลังมีการจัดทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ประชาชนเจ้าของประเทศควรได้รับทราบว่าวิธีการและแนวทางที่ทำอยู่เป็นอย่างไร หากรัฐบาลต้องการเดินหน้ารวดเร็วขึ้น วิป 3 ฝ่าย และคณะกรรมาธิการฯ น่าจะคุยเรื่องเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญที่อาจจะปรับปรุงให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ก็จะทำให้เดินได้เร็วขั้น ซึ่งตนได้เสนอต่อนายสมศักดิ์ไปแล้ว โดยประธานสภาก็รับจะไปหารือกับฝ่ายต่างๆ แต่ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงเลย พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องใช้สิทธิเป็นปากเสียงของประชาชน ที่กังวลต่อการรื้อรัฐธรรมนูญครั้งนี้ โดยในขณะนี้ยังเหลือการพิจารณาอีก 10 มาตรา มีผู้รออภิปรายหลายร้อยคน คิดว่าคงจะใช้เวลานานพอสมควร และคงตอบยากว่าจะใช้เวลาไปถึงเดือน มิ.ย.อย่างที่บางฝ่ายออกมาวิเคราะห์หรือไม่” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การที่กรรมาธิการฯ เสียงข้างมากบางคนเสนอว่าควรจะมีการพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญสัปดาห์ละ 3 วันต่อจากนี้นั้น ตนคิดว่าเมื่อมีการเปิดสมัยประชุม สภาก็ควรทำงาน เพราะยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และผู้แทนก็อยากถามกระทู้ ดังนั้น ถ้าจะใช้เวลาเพียงเพื่อแก้รัฐธรรมนูญไปเรื่อยๆ ก็เท่ากับเปิดสภาเพื่อรองรับการแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียว แต่ขณะที่ขอขยายสมัยประชุมกลับระบุใน พ.ร.ฎ.ว่าจะพิจารณากฎหมายที่คั่งค้าง ตนจึงหวังว่าน่าจะมีการตกลงกันได้

ส่วนกรณีที่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนจะกลับมาลงสนามการเมืองหลังพ้นโทษถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีจากคดียุบพรรคไทยรักไทยนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยินดีกับนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 ที่กำลังจะพ้นจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองในวันที่ 30 พ.ค.นี้ และเป็นสิทธิ์ที่แต่ละคนจะเลือกว่าจะเข้าสู่การเมืองหรือไม่ โดยคนเหล่านี้ไม่ใช่คนใหม่ในแวดวงการเมือง และหลายคนก็ยังมีบทบาทอยู่ไม่มากก็น้อย แต่ก็ถือว่าคนเหล่านี้จะเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในซีกรัฐบาล จึงเป็นเรื่องที่ภายในของรัฐบาลที่จะบริหารจัดการอย่างไร สำหรับตนยืนยันมาตลอดว่าการเมืองต้องมีทางเลือกให้กับประชาชน จึงไม่มีปัญหาที่คนเหล่านี้จะเข้าสู่สนามการเมืองอีกครั้ง สำหรับการเลือกผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 นั้น ตนได้คุยกับนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือแล้ว คาดว่าสัปดาห์นี้จะได้ตัวผู้สมัคร
กำลังโหลดความคิดเห็น