“จรัญ” ยันไปบรรยายไม่ขัดจริยธรรม เผยลงมติคดีไว้แล้ว สวน “เรืองไกร” เช็กก่อนฟ้อง

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยันไปบรรยาย พตส.ไม่ขัดจริยธรรมตุลาการ เผยลงมติและประชุมก่อนแล้ว ชี้หัวใจของการพิจารณาคดีอยู่ที่มติไม่ใช่แค่นั่งบัลลังก์ รับถูกจับตาเรื่องปกติ สวน “เรืองไกร” ฟ้องผู้ตรวจฯ เช็กให้ดีเสียก่อน

วันนี้ (29 เม.ย.) นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ส่งเรื่องถึงผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบจริยธรรมของตนอาจขัดต่อจริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ไปเป็นผู้บรรรยายพิเศษให้กับนักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 3 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยไม่ออกนั่งบัลลังก์เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า กรณีดังกล่าวไม่น่าจะขัดต่อประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องจริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด เนื่องจากในวันนั้นตนได้ทำหน้าที่ในการประชุมและลงมติเรียบร้อยแล้ว และก่อนการไปบรรยายก็ได้แจ้งต่อนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ไว้ว่าได้รับเชิญให้ไปบรรยายพิเศษที่สำนักงาน กกต.ไว้แล้วเช่นกัน จึงไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ อีกทั้งการออกนั่งบัลลังก์ในวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่จำเป็นต้องออกนั่งบัลลังก์ครบทั้ง 9 คน เนื่องจากการอ่านคำสั่งในวันนั้นเป็นการจำหน่ายคดี ซึ่งตนมองว่าหัวใจสำคัญของการพิจารณาคดีต่างๆ นั้นอยู่ที่การลงมติมากกว่าที่ตุลาการฯต้องอยู่ในที่ประชุมครบทุกคน จะขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้

นายจรัญกล่าวต่อว่า การที่นายเรืองไกรยื่นเรื่องตรวจสอบจริยธรรมตนนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจในกระบวนการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญมากกว่า เพราะการไปบรรยายพิเศษนั้นตนก็ปฏิบัติไปตามคำเชิญของทางสำนักงาน กกต. จึงคิดว่าไม่น่าจะขัดแย้งต่อหลักจริยธรรมแต่อย่างใด คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด แต่เข้าใจว่าบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งสาธารณะ การถูกจับตามองในแง่ของการปฏิบัติตนย่อมเป็นเรื่องปกติ ซึ่งก็จะทำให้รู้จักระมัดระวังตัวไม่ปล่อยปะละเลยตามใจชอบโดยที่ไม่สนใจหน้าที่

“คนที่จะกล่าวหาว่าผู้อื่นกระทำผิดนั้นควรมีการตรวจสอบรายละเอียดให้เกิดความรอบคอบเสียก่อน เพราะไม่เช่นนั้นก็จะส่งผลให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาเกิดความเสียหายได้ ทั้งที่ความจริงแล้วบุคคลนั้นไม่ได้กระทำการอะไรที่ผิดเลย แต่ผมก็ไม่ได้ถือว่าการเป็นบุคคลสาธารณะอยู่ในตำแหน่งตุลาการแล้วใครจะทำหน้าที่ตรวจสอบไม่ได้ หากเห็นว่าเราทำไม่ถูกไม่ควรก็สามารถบอกกล่าวกันได้ เพื่อที่จะได้ระมัดระวังและปฏิบัติตนได้ถูกต้อง” นายจรัญกล่าว