xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ชี้ “ปู” รดน้ำขอพร “ป๋า” ตามประเพณีไทย อย่าโยงปมการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (แฟ้มภาพ)
“ประยุทธ์” ระบุ “ปู” นำรองนายกฯ รดน้ำขอพร “ป๋าเปรม” เป็นไปตามประเพณีไทย ชี้เป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรนำไปโยงกับปมการเมือง ส่วน “เต้น-ตู่” ไม่ไปก็เป็นเรื่องของท่าน สำหรับสถานการณ์ภาคใต้ สั่งปรับแผนเชิงรุกรับมือป่วนช่วงครบรอบเหตุการณ์ “กรือเซะ” จัดชุดพิเศษไล่ติดตาม ระบุเหตุจำกัดโจรใต้วางบึ้มไม่ได้ เพราะซีซีทีวียังไม่สมบูรณ์ ลั่นใครยิงทหารลงโทษหนัก ไม่มีลดหย่อน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกองทัพภาคที่ 2 และไปดูการปฏิบัติงานของกองกำลังสุรนารี ในพื้นที่ชายแดนว่า ตนเดินทางลงพื้นที่ เพื่อกำกับดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นไปตามนโยบายของกองทัพบกและรัฐบาลที่ได้สั่งการมา ทั้งการรักษาสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย รักษาแนวชายแดนให้ปลอดภัย การดูแลประชาชนให้ปลอดภัย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี ดำเนินการได้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ไปเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชา

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำคณะมนตรี (ครม.) เข้ารดน้ำขอพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในวันที่ 26 เม.ย.นี้ เป็นการส่งสัญญานที่ดีในเรื่องการปรองดองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนมองเรื่องนี้ในด้านของประเพณีไทยมากกว่า วันสงกรานต์เป็นการรดน้ำขอพร และอวยพรผู้ใหญ่ การกระทำนี้จะเกิดขึ้นได้จากผู้ใหญ่มีเมตตาผู้น้อยที่เข้ามากราบขอพร เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องของความพอใจทั้ง 2 ฝ่าย คิดว่าเป็นสิ่งเริ่มต้นที่ดี เราอย่าไปพูดถึงเรื่องอื่นๆ ถ้าเรายึดโยงทุกอย่างไปถึงกันหมดมันก็จะทำอะไรไม่ได้สักอย่าง อาจจะกลับถอยหลังมาที่เก่า บางอย่างต้องเดินหน้าต่อไป บางอย่างก็ต้องแก้ไขด้วยกระบวนการที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ส่วนที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง จะไม่เดินทางร่วมกับ ครม. ในวันที่เข้ารดน้ำขอพร พล.อ.เปรม นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของท่าน คิดว่าไม่ได้มีการบังคับ การไปไหนก็ตาม การจะทำอะไรก็ตาม มันเป็นความพอใจทั้งสองฝ่าย และเป็นการจัดระเบียบ เพราะอาจจะไปทั้งหมดไม่ได้ เมื่อไปทั้งหมดไม่ได้อาจจะไปเพียงนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี เท่านั้น เมื่อถามย้ำว่า มีนัยยะทางการเมืองอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองเป็นนัยทางการเมืองอะไร ตนมองทุกอย่างเป็นการทหารหมด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยในวันครบรอบเหตุการณ์ความรุนแรงที่มัสยิดกรือเซะ จ.ปัตตานี ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ว่า ขณะนี้ได้มีการกำชับในการปรับกำลัง ปรับแผนในเชิงรุก จะเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมานั้น มีการปฏิบัติงานทางการทหารมากขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์ด้านการข่าว ที่เราได้จัดชุดพิเศษเข้าไล่ล่าติดตาม ทำให้มีข้อมูลต่างๆ มากขึ้น ประเด็นสำคัญคือเราได้จัดการติดตามคนร้ายที่มีหมายจับ ป.วิอาญาทุกคน รถทุกคันที่หาย ทำให้มีมาตรการที่เข้มงวด ตามถนนเส้นทางต่างๆ ซึ่งก็ยังติดปัญหาอยู่ตรงที่ว่าทำอย่างไรเราจะมีกำลังพลมากขึ้น คือการใช้กำลังที่มีอยู่เดิมให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ในเรื่องของการปฏิบัติการเชิงรุก

ผบ.ทบ.กล่าวว่า วิธีการที่สำคัญคือจะทำอย่างไรที่เราจะใช้กำลังในปฏิบัติการเชิงรับให้น้อยลง คือการรักษาความปลอดภัย การดูแลสถานที่ ซึ่งภารกิจหลายๆ อย่าง ต้องปรับเปลี่ยนผ่องถ่ายให้กับกำลังส่วนที่สามารถดูแลได้ในยามปกติ เช่นกำลังฝ่ายบ้านเมือง กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเราจะได้นำกำลังทหารนั้นออกมาทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บนถนนเส้นทาง ด่านตรวจ จุดสกัด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

“ขณะนี้ปัญหาที่เราได้วิเคราะห์มาตามลำดับ ก็ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ปัญหาหลัก คือการกำจัดเสรีของฝ่ายตรงข้าม ยังทำไม่ได้ 100% เนื่องจากว่าจุดสกัด หรือด่านตรวจ มีข้อจำกัดในเรื่องของเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่นกล้องซีซีทีวีที่ยังไม่สมบรูณ์ ก็เข้าใจอยู่ว่าต้องใช้งบประมาณที่สูง แล้วเป็นงบประมาณที่ไม่ผ่านทางกระทรวงกลาโหม ไม่ได้ผ่านทางทหาร เป็นเรื่องของกระทรวงอื่นๆ หลายหน่วยงานที่มีการจัดหา ทางเราก็พยายามแจ้ง และประสานไปว่า ขอให้มีการวางแผนร่วมกัน ขอให้มีการใช้ประโยชน์ร่วมกัน และเกื้อกูลซึ่งกันและกัน มิฉะนั้นแล้ว กล้องซีซีทีวีทั้งหมดจะมีปัญหาในการใช้ประโยชน์”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เราต้องการมุ่งหวังในเชิงป้องกันมากกว่าการใช้ ในปัจจุบันเราใช้หลังจากเกิดเหตุไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ คือการล่าติดตามจับกุม ก็ดีที่ยังมีประโยชน์อยู่ จริงๆ แล้วอยากให้มีความสมบรูณ์ขึ้น ซึ่งจะเป็นการป้องปรามฝ่ายตรงข้ามได้มากขึ้น แล้วจะสามารถจัดการเฝ้าตรวจได้ตลอด 24 ชม. เพราะฉะนั้นในวันนี้ทางเราต้องพึ่งสายตา และกำลังพล ซึ่งก็มีภารกิจมากมายในแต่ละวัน เราก็จะปรับภารกิจทั้ง 2 อย่างนี้ให้เข้ากัน เป็นหน้าที่ของผู้ปฏิบัติ ซึ่งทาง กอ.รมน.ภาค 4 กำลังดำเนินการอยู่ ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า สำหรับในวันที่ 28 เม.ย. เป็นวันครบรอบ 8 ปี เหตุการณ์กรือเซะนั้น การทำความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ ทำให้ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้น ฝ่ายก่อความรุนแรงพยายามหาช่องว่าง ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการปลุกเร้าให้เห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต ผู้ก่อความไม่สงบพยายามทำทุกเรื่องให้เป็นประโยชน์กับฝ่ายตนเอง เราต้องเข้าใจกฎหมายว่าการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมายไทย ต้องถูกดำเนินคดี และหากรู้เท่าไม่ถึงการณ์เรามีมาตรา 21 รองรับกับคนที่เข้ามามอบตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าถืออาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ จนมีการบาดเจ็บสูญเสีย ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีการลดหย่อน เพราะคดีค่อนข้างแรง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สถานการณ์ในตอนนี้กำลังก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ต้องประกอบด้วย 4 ประการ คือ 1. เจ้าหน้าที่ต้องพอเพียง และปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และปฏิบัติงานเชิงรุกทั้งพื้นที่ในเมือง ชุมชน ชนบท ป่าเขา 2. ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ คือ กล้องซีซีทีวี หรือระบบการเข้าตรวจที่เป็นอีเล็กทรอนิกส์ ต้องจัดหาให้สมบรูณ์ เพราะเป็นการต่อสู่ในลักษณะสงครามกองโจร

3. การบริหารจัดการ บูรณาการ ระหว่างกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยงข้องทั้ง 20 กว่าหน่วยงาน ต้องลงไปขับเคลื่อนอย่างจริงจัง แล้วไปให้พร้อมกับฝ่ายความมั่นคง 4. ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ สถานที่ เส้นทาง เวลา ที่มีความเสี่ยง ควรหลีกเลี่ยง เช่น การเดินทางในเวลากลางคืน ถ้าสามารถอดทนได้สักระยะเวลาหนึ่ง ให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานเต็มที่ ก็ไม่เกิดความสับสนจนเข้าใจผิด

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า กองทัพร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การประปา การไฟฟ้า ปตท. ในการที่จะเติมน้ำใส่รถเพื่อไปแจกจ่ายในทุกจังหวัดที่เกิดภัยแล้ง ในส่วนของ ปตท.ได้สนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง และใช้รถของกองทัพบก แจกจ่ายให้กับประชาชนในตอนนี้ 2 ล้านกว่าลิตรแล้ว ในหลายๆ จังหวัดที่เกิดภัยแล้งเกิดขึ้น ระยะยาวน่าจะดีขึ้นในการแก้ปัญหา โดยการขุดลอกคูคลอง การขุดลอกแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่อยู่ในพื้นที่ให้สามารถเก็บกักน้ำได้ในฤดูแล้ง เป็นโครงการที่ควรทำ และนี่ก็จะเป็นแก้มลิงโดยธรรมชาติ ซึ่งทาง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านรับสั่งมาตลอดระยะเวลา

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า สำหรับในกรุงเทพฯ การขุดลอกคูคลองได้เกิน 50% ไปแล้วในส่วนที่กองทัพบกรับมา ก็จะเสริมไปด้วยการช่วยเหลือประชาชนริมคลองที่ขุด ทำความเข้าใจ ให้ช่วยกันดูแลคลองให้สะอาด ให้เกิดความร่วมมือระหว่างทหารกับประชาชน ถ้าเป็นไปได้ต่อไปจะมีการช่วยกันทำอย่างไรให้คลองทั้งสายใสสะอาด ไม่มีคนบุกรุกริมคลอง ซึ่งต้องนำเข้าเรียนทางรัฐบาลต่อไปเพราะเป็นโครงการระยะยาว
กำลังโหลดความคิดเห็น